มีรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า รัฐมนตรีอินโดนีเซียออกมาประกาศการบรรลุข้อตกลงด้านภาษีกับเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่อย่าง Google แล้ว หลังเป็นที่ถกเถียงกันมาเนิ่นนานว่า Google จ่ายภาษีให้กับรัฐบาลน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้ดูแลด้านภาษีของอินโดนีเซียได้ออกมาเผยว่า อินโดนีเซียมีแผนจะเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเป็นเวลา 5 ปีกับ Google ซึ่งเฉพาะในปี 2015 นั้น Google มีใบแจ้งหนี้แล้วเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 13,568 ล้านบาท
รัฐมนตรีด้านการเงินของอินโดนีเซีย Sri Mulyani Indrawati กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า “เรามีข้อตกลงกับ Google ในปี 2016 แล้ว แต่เราไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้” ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าภาษีของ Google ในปีอื่น ๆ จะมีมูลค่าเท่าใด
ย้อนหลังไปในปี 2016 Google ได้ตกลงที่จะจ่ายภาษีย้อนหลังให้กับหน่วยงานด้านภาษีของอังกฤษเป็นเงิน 164 ล้านเหรียญสหรัฐ (5,562 ล้านบาท) มาแล้วเช่นกัน
โดยข้อมูลจากหน่วยงานด้านภาษีของอินโดนีเซียระบุว่า รายได้จาก Google ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศนั้นถูกบันทึกเป็นรายได้ของสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในสิงคโปร์
ทั้งนี้ มีการประมาณการว่า รายได้จากค่าโฆษณาทั้งหมดในตลาดอินโดนีเซียนั้นมีมูลค่าประมาณ 830 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง Google และ Facebook ครองส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 70% ของตลาดดังกล่าว
ขณะที่ Google ได้โต้แย้งโดยนำผลการศึกษาที่ทำร่วมกับบริษัทนักลงทุนอย่าง Temasek ที่ประมาณการตัวเลขตลาดโฆษณาดิจิทัลในอินโดนีเซียปี 2015 ว่าน่าจะมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 10,179 ล้านบาทเท่านั้น
รายงานจาก Reuters ยังชี้ด้วยว่า ประเทศไทยเรานั้นก็มีการศึกษาและวางแผนจะเก็บภาษีจากบริษัทเทคโนโลยีอยู่เช่นกัน
ที่มา: Reuters