ในแง่ของการตลาด โดยเฉพาะการตลาดดิจิทัล การใช้ Influencer จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก เปรียบเสมือนการใช้เส้นทางลัดที่ทำให้แบรนด์ไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ด้วยจำนวนผู้ติดตามที่ Influencer มีอยู่ในมือ และความคิดเห็นของเขาหรือเธอที่แฟนๆ พร้อมที่จะฟังอยู่เสมอ
ถึงตอนนี้คงไม่ต้องพูดถึงประโยชน์จากการใช้ Influencer กันอีกแล้ว เพราะดูเหมือนจะเป็นเรื่องสามัญที่ใครๆ ก็ทำ แต่คำถามคือแบรนด์สามารถใช้งาน Influencer ได้ดีที่สุดหรือยัง
อินโฟกราฟิกชิ้นนี้จะเป็นไกด์ไลน์เบื้องต้นที่น่าจะช่วยแบรนด์จัดการกับ Influencer ได้ดีขึ้น
ก่อนที่จะไปถึงประเด็นอื่นๆ เราควรตอบให้ได้ก่อนว่า Influencer คืออะไร? หลายๆ ธุรกิจในบ้านเราเลือกที่จะใช้ Influencer เพราะต้องการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ Influencer สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น
เพราะอิทธิพลของ Influencer จะต้องส่งผลกระทบต่อพฤติกรรม ความรู้สึกนึกคิด หรือการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายได้ด้วยการสร้างคอนเทนต์ในประเด็นเฉพาะอย่างที่ Influencer แต่ละคนถนัด
ถ้ายึดตามความหมายนี้ เราจะไม่มี Influencer ที่รีวิวสินค้าได้ทุกอย่าง หรือเป็นเป็นนักรีวิวแบบจับฉ่าย รับหมดทุกงาน แต่จะต้องมีความถนัดเฉพาะด้าน หรือเป็น Top of mind ของกลุ่มเป้าหมายในสินค้าประเภทต่างๆ
การทำตลาดโดยใช้ Influencer มีข้อดีอย่างไร? สถิติระบุว่า คนเพียงแค่ 3% สามารถสร้างผลกระทบได้ถึง 90% บนเว็บ และการใช้ Inflencer Marketing สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับแบรนด์ได้ถึง 650% นอกจากนี้ ยังเป็นวิธีที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วที่สุด และเป็นวิธีที่สร้างลูกค้ารายใหม่ได้เร็วที่สุดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แบรนด์ส่วนมากอาจจะมองหา Influencer ที่มีฐานแฟนจำนวนมากอยู่แล้ว แต่ก็อย่าละเลยบล็อกเกอร์หรือนักรีวิวหน้าใหม่ที่เข้ามาในอุตสาหกรรม เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า การแจ้งเกิดบนโลกออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยาก (เพราะสิ่งที่ยากคือการรักษาชื่อเสียงนั้นไว้)
และข้อควรจำ (และทำ) อีกเรื่องก็คือ ให้เลือก Influencer เพราะคุณภาพของงาน ไม่ใช่ยอดการเข้าถึง หรือ Reach แต่เพียงอย่างเดียว เพราะคุณภาพของคอนเทนต์จะเป็นตัวตัดสินว่าแบรนด์ได้อะไรจากการใช้ Influencer นั้นๆ
แล้วแบรนด์จะเข้าถึง Influencer ได้อย่างไร?
อินโฟกราฟิกนี้แนะนำให้ติดต่อโดยตรงใน Contact บนเว็บไซต์ของ Influencer คนนั้น เมื่อเจอคอนเทนต์ที่ถูกใจ หรือค้นหาจากโซเชียลโปรไฟล์ รวมไปถึงการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่ต้องการ เพื่อนำไปสู่คอนเทนต์ และไปถึงตัวผู้สร้างคอนเทนต์ในที่สุด
ที่มา : Social media today