call to action (CTA) คือการเรียกร้องให้ผู้ชมดำเนินการหรือ action เมื่อชมวิดีโอหรืออ่านเนื้อหาจบ บางบริการออนไลน์ใช้ call to action ในรูปปุ่มเดียวสำหรับคลิก บางรายเลือกแสดงโลโก้บริษัทพร้อมกับลิงก์เว็บไซต์ ให้ผู้เห็นจดจำได้และคลิกเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติม ใครที่ต้องการเลือก call to action ให้เหมาะกับ content marketing มากที่สุด ขอเชิญทุกคนศึกษา Infographic นี้โดยละเอียด
content marketing ที่ยอดเยี่ยม อาจจะพลาดท่าได้หากเลือกใช้ call to action ที่ไม่เหมาะสม เพราะจะไม่สามารถกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายได้
ปั้นให้โดนใจ
บันไดสู่ call to action ที่หลายธุรกิจทำเพื่อเรียกร้องให้กลุ่มเป้าหมายลุกขึ้นมาคลิกหรือกรอกข้อมูลสักอย่าง คือการเปิดเนื้อหาให้ทุกคนดาวน์โหลดได้ฟรี หรือการเปิดบริการให้คำปรึกษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ รวมถึงบริการพิเศษที่กำหนดระยะเวลาใช้บริการฟรี หลักการของเกมนี้คือการดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็น และดลใจให้คลิกก่อนที่จะหมดเวลา
ยังมีอีกหลายวิธีแสดงข้อความดึงความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย เห็นได้ชัดจากข้อมูลที่บริษัท Breadnbeyond รวบรวมไว้ใน infographic นี้ ซึ่งจัดเต็ม 5 รูปแบบ call to action ที่พบมากที่สุดบนออนไลน์ พร้อมข้อมูลวิธีที่ดีที่สุดในการใช้งาน
3 ใน 5 รูปแบบนี้น่าสนใจมาก เช่น Single button ปุ่มเดียวที่เน้นความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน วิธีการติด call to action ที่ดีที่สุดคือการแนบสโลแกนของบริษัทไว้เหนือปุ่ม และมีคำอธิบายเพิ่มเติมหรือ copy บางส่วนด้านล่างปุ่มก็พอ
ยังมี Freebies opt-in การเปิดทางเลือกให้ผู้ใช้กรอกที่อยู่อีเมลของตัวเอง เพื่อจะได้รับฟรีคู่มือหรือจดหมายข่าวนั้นทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม แถมยังช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างรายการข้อมูลลูกค้าได้อีก รวมถึง Premium trial การเปิดให้ลูกค้าทดลองใช้แบบพรีเมียม วิธีนี้แบรนด์อาจจะแก้ปัญหาเรื่องผู้ใช้ตัดสินใจได้ยากด้วยการทำให้บริการของบริษัทเป็นเวอร์ชันฟรี แต่จุดนี้ต้องระวังเรื่องการระบุเงื่อนไข และช่วงเวลาการเปิดให้บริการอย่างชัดเจน
call to action ประเภทอื่นคือ on screen call to action ซึ่งจะเปิดให้ทุกข้อความบนหน้าจอสามารถคลิกได้ทั้งหมด และ call to action ประเภทสุดท้ายคือรูปแบบที่เหมาะกับแบรนด์ซึ่งรู้จักกลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มเป้าหมายก็รู้จักแบรนด์อยู่แล้ว ดังนั้น call to action ประเภทนี้จึงไม่ต้องการการอธิบายใดๆ วิธีการใช้งาน call to action ประเภทนี้สามารถติดตามได้จาก infographic ฉบับเต็มด้านล่าง
ที่มา: : PRDaily