การทำโฆษณาบนโลกออนไลน์กลายเป็นส่วนสำคัญอันดับต้นๆ ที่คนจะใช้ในการทำให้ชื่อของแบรนด์ได้รับรู้กันกว่าและถูกพูดถึงได้ Infographic นี้จะทำให้ทุกคนเข้าใจว่าทำไมจึงไม่ควรมองข้ามการเติบโตของธุรกิจโฆษณาบนสื่อดิจิตอล งานนี้จัดเต็มสถิติ 5 ปีตั้งแต่ 2011-2015 โดยเทียบกับสื่อออฟไลน์จนเห็นความแตกต่างชัดเจน
“การโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอล” หรือ Digital Advertising วันนี้ประกอบด้วยหลายช่องทาง ทั้งโซเชียลมีเดีย, SEO และบนโทรศัพท์มือถือ ล่าสุดเว็บไซต์ Adviceinteractivegroup.com พบว่าในปีนี้ (2013) การทำโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลมีการเติบโตโดยคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นราว 1.8% และคาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2015 ซึ่งมีอัตราส่วนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นราว 1.8% ต่อปี ในขณะที่การทำโฆษณาผ่านสื่อดั้งเดิมกลับมีการเติบโตที่ลดลงอยู่ที่ 0.1%-1.1% เท่านั้น
สิ่งที่ชัดเจนในวันนี้คือการโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลเป็นรูปแบบในการทำการตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหากมีการเปรียบเทียบกับ “การทำโฆษณาผ่านสื่อดั้งเดิม (Traditional Advertising)” อย่างเช่น โฆษณาบนทีวี, วิทยุและนิตยสารต่างๆ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการทำโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลมีการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับสื่อดั้งเดิมที่พบว่ามีการเติบโตที่ลดต่ำลง โดยข้อดีที่ทำให้การทำโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ขณะที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย
นอกจากนี้ โฆษณาบนสื่อดิจิตอลยังคุ้มค่าต่อการลงทุน รวมถึงมีผลตอบแทนที่รวดเร็วและสามารถประเมินประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างชัดเจน
และหากธุรกิจประเภทไหนที่ยังมองข้ามในการทำโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลอยู่ในเวลานี้ อาจทำให้เกิดผลเสียที่ตามมาอย่างคาดไม่ถึงเลยก็คือ เสียเปรียบคู่แข่งในการทำกธุรกิจ, ขาดโอกาสในการทำธุรกิจอย่างมหาศาล และขาดโอกาสในการเข้าถึงแบรนด์ของผู้บริโภค ซึ่งผลการสำรวจพบว่าภายใน 1 เดือนยอดการเสิร์ชหาข้อมูลบน Google กว่า 20% เป็นการเสริ์ชข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจในท้องถิ่น (Local Business) และยิ่งไปกว่านั้นภายใน 1 วันยังมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและการบริการมากถึง 46%
นอกจากนี้ การสำรวจพบว่ากลุ่มนักการตลาดส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในการลงทุนผ่านโซเชียลมีเดียเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 โดยคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 70% ของจำนวนนักการตลาดทั้งหมด ตามมาติดๆด้วยการทำการตลาดบนโทรศัพท์มือถือ (69%), การทำการโฆษณาผ่านวีดีโอ (64%), Rich Media (23%), ป้ายแบนเนอร์ต่างๆ (19%) และผ่านการทำโฆษณาบนทีวีออนไลน์หรือ IPTV (13%)
โซเชียลมีเดียที่พบว่ามีการลงทุนเพื่อทำโฆษณาสูงสุดมาเป็นอันดับแรกอยู่ในเวลานี้นั้นพบว่า “Pinterest” เป็นโซเชียลมีเดียที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (Compound Annual Growth Rate หรือ CAGR) นำโด่งมาเป็นอันดับดับ 1 ในช่วง 5 ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2005-2012 โดยมีอัตราส่วนในการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 4,900 ตามมาด้วย Twitter เป็นอันดับที่ 2 (507.47), Google+ (344.44), Tumblr (248.03), WordPress (120.43), Facebook (109) และ Linkedin (71)
จากข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอนี้แสดงเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความสำคัญของ “การทำโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอล” ซึ่งหากธุรกิจประเภทไหนยังลังเลอยู่ในเวลานี้ เปลี่ยนใจมาเริ่มทำตอนนี้ก็ยังไม่สาย
ที่มา: AdviceInteractiveGroup