ว่าด้วยเรื่องของแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน มีการวิจัยจาก Alligatortek เกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาจำนวน 2,000 คน พบว่า แอปพลิเคชันกลุ่มฟิตเนสและสุขภาพ และแอปพลิเคชันกลุ่ม Productivity ขึ้นแท่นแอปพลิเคชันที่ถูกลบออกจากสมาร์ทโฟนมากที่สุด
แม้จะเป็นผลการสำรวจจากฝั่งอเมริกาแต่ก็น่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะในวันที่หลายธุรกิจของไทยสนใจผลิตแอปพลิเคชันออกมาให้ผู้บริโภคได้ดาวน์โหลดกันมากมายเต็มไปหมด ซึ่ง Alligatortek ได้แบ่งหมวดหมู่ของแอปพลิเคชันออกเป็น 8 กลุ่ม และพบว่ากลุ่มที่ถูกลบออกจากสมาร์ทโฟนมากที่สุดคือ กลุ่มฟิตเนส-สุขภาพ, รองลงมาคือกลุ่ม Productivity, AI-Smart Home, Shopping-eCommerce, News-Entertainment, Financial-Banking, Social Media และ Email – Communication
ถ้าดูจากผลสำรวจนี้ สามหมวดสุดท้ายอย่าง Financial-Banking, Social Media และ Email – Communication อาจสบายใจได้มากขึ้น เพราะแปลว่าผู้บริโภคจำเป็นต้องมีแอปพลิเคชันกลุ่มนี้อยู่ในเครื่องจึงไม่ค่อยได้ลบออกกัน แต่สิ่งที่ผู้บริโภคกังวลกับแอปพลิเคชันสามหมวดสุดท้ายนี้น่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และการถูกสะกดรอยมากกว่า
นอกจากนี้ ในการสำรวจยังพบว่า
- 63% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนยังอยากเก็บแอปพลิเคชันที่โหลดมาแต่ไม่ได้ใช้งานเอาไว้
- สำหรับแอปพลิเคชันที่ลบไปแล้วนั้น มีประมาณ 1% ที่จะกลับไปดาวน์โหลดมาใส่เครื่องใหม่ แต่ส่วนใหญ่ 62% จะไม่กลับไปดาวน์โหลดมาใช้งานอีก
- คนโสดมีแนวโน้มจะลบแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนทิ้งบ่อยกว่าคนแต่งงานแล้วถึงสองเท่า
- ปัจจุบันมี 37% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน แต่เลือกไปใช้งานผ่าน โมบายล์ไซต์แทน
สำหรับรายชื่อของแอปพลิเคชันที่มีการดาวน์โหลดมาแล้วถูกเปิดใช้งานน้อยที่สุดเป็นแอปพลิเคชันหมวด Productivity โดยมีชื่อของแอปพลิเคชันดังอย่าง Trello, Evernote ปรากฏอยู่ด้วย
มาถึงจุดนี้ หลายคนอาจอยากทราบเหตุผลของคนอเมริกันว่าทำไมพวกเขาจึงลบแอปพลิเคชันออกจากสมาร์ทโฟนกัน ซึ่งผลการสำรวจพบว่า สาเหตุหลักไม่ใช่เรื่องของการไม่ใช้งาน แต่เพราะพวกเขาต้องการ “พื้นที่” บนเครื่องเพิ่มขึ้นต่างหาก (43%) ส่วนคนที่เบื่อแอปพลิเคชัน หรือไม่ต้องการใช้งานอีกแล้วก็มีเช่นกัน (26%) โดยมีเพียง 3% เท่านั้นที่บอกว่าลบแอปพลิเคชันทิ้เพราะเกรงว่าจะถูกสะกดรอย หรือเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้โดยง่าย
ที่สำคัญ การสำรวจนี้ยังพบว่า “ผู้ชาย” มักกังวลมากกว่าผู้หญิงถึงสองเท่าว่าจะถูกบรรดาแอปพลิเคชันเหล่านี้สะกดรอยด้วยนี่น่ะสิ
ที่มา: MarketingProfs