การมองหาแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างไอเดียใหม่ๆสำหรับการคิดค้นนวัตกรรมบนมือถือนั้น ไม่ควรมองแค่ในประเทศแถบทางตะวันตกเพียงอย่างเดียว แต่ควรมองไปยังฝั่งเอเชียดูบ้าง เพราะเป็นแหล่งขุมทรัพย์ในการมองหาข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจ และเป็นที่น่าจับตามองในโลกอนาคต เห็นได้จากมีการนำวิธีการ และไอเดียดีๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ในนวัตกรรมบนมือถืออยู่เสมอจากประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งมีประชากรจำนวนมาก และมีภูมิประเทศอันกว้างใหญ่ ดังนั้น เรายังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จากทวีปที่มีขนาดของตลาดมือถือใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้
และด้านล่างนี้ เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ ของนวัตกรรมจากภูมิภาคเอเชีย
1. แอปพลิเคชันสำหรับส่งข้อความบนมือถือ
- Line ไม่มีใครไม่รู้จักโปรแกรมแชทอันโด่งดังที่คิดค้นโดยประเทศญี่ปุ่นนี้ จากที่สมัยก่อน เวลาจีบกันจะต้องมีการขอเบอร์ถึงจะติดต่อกันได้ แต่สมัยนี้ต้องแลกไลน์เท่านั้น โดยแอปพลิเคชันนี้จะช่วยให้ผู้คนติดต่อกันผ่านทางข้อความเสียง ข้อความอักษร และวิดีโอคอล
ความสำเร็จที่วัดค่าได้จากแอปพลิเคชันนี้
– มีผู้ใช้ถึง 400 ล้านคน
– มีผู้ใช้ข้ามประเทศกว่า 10 ประเทศ
– มีการส่งข้อความถึง 10 พันล้านข้อความต่อวัน
– มีการส่งสติ๊กเกอร์จำนวน 1.8 พันล้านรูปต่อวัน
– มีการโทรออนไลน์ถึง 12 ล้านครั้งต่อวัน
– และในปี 2013 Line ทำรายได้ถึง 338 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ จากการซื้อสติ๊กเกอร์และเกมส์นอกจากใช้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนฝูงแล้ว ยังสามารถเพิ่มบัญชี Account ของคนดัง หรือบริษัทที่มีชื่อเสียงต่างๆ เพื่อรับข่าวสารและโปรโมชั่นได้โดยตรง ผู้ใช้ยังเพิ่มรายชื่อเพื่อนจากวิธีการแปลกใหม่ที่มีประสิทธิภาพอื่นๆ อีก อย่าง “Shake It!” และ QR code โดยความสำเร็จของ Line แสดงให้เห็นถึงการทำให้มัน “ง่าย” เข้าไว้ และวิธีการใช้มือถือในการชื่อมต่อพวกเราทุกคน
- Weixin (WeChat) มาทางฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่ Weixin หรือที่เรารู้จักกันในนาม WeChat เป็นโปรแกรมแชทมาแรงที่ใช้กันมากที่สุดในจีน พัฒนาโดย Tencent ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะมีผู้ใช้ถึง 300 ล้านคน และคาดว่าจะทำรายได้ถึง 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในปี 2014 นี้
WeChat จะไม่ปล่อยให้มีโฆษณาในแอปพลิเคชั่น แต่จะอาศัยเกมส์และโปรแกรมที่ใช้เสริมในการทำเงิน นอกจากนี้ยังมีระบบการจ่ายเงินที่สนับสนุนกับการชอปปิ้งออนไลน์ในตัวแอปพลิเคชั่นเอง เช่น จ่ายค่าตั๋วหนัง ค่าแทกซี่ และยังมีทางที่ใช้เชื่อมต่อกับธุรกิจสำหรับร้านค้า และบล็อกเกอร์ คือ สามารถแบ่งปันข่าวสาร ประชาสัมพันธ์และโฆษณาเผยแพร่การโพสต์สู่สาธารณะได้WeChat เป็นตัวอย่างที่มากกว่าโปรแกรมแชททั่วๆ ไป การมุ่งเน้นไปที่การค้ามากกว่าโฆษณาดูเหมือนจะสร้างรายได้ให้กับแอปพลิเคชันนี้ได้ดีกว่า
2. แอปพลิเคชันทางสุขภาพ
- Blink Control แม้แต่ด้านสุขภาพร่างกายก็สามารถให้มือถือช่วยดูแลคุณได้ อย่าง Blink Control ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนแอนดรอยด์ พัฒนาโดย Indonesian company Aibilities ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยอัมพาตที่ไม่สามารถสื่อสารได้อย่างคนปกติ โดยจะจับการเคลื่อนไหวของการกระพริบตาผ่านกล้องหน้าของอุปกรณ์ขนาด 10 นิ้ว เพื่อให้เลือกประโยคที่ต้องการจะสื่อสารได้ นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการพัฒนาต่อไปในด้านการควบคุมสภาพแวดล้อมรอบๆ เช่น ควบคุมคำสั่งทีวีได้
- Just Shake It อีกหนึ่งแอปสำหรับสุขภาพจากประเทศสิงคโปร์ โดยบริษัท Healint สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อแจ้งเตือนคนอื่นๆ หากมีอาการ เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถโทรเรียกรถพยาบาลได้เอง ทางแอปพลิเคชันจึงถูกออกแบบมาให้รับคำสั่งการเขย่า โดยไม่ต้องปลดล็อคมือถือ หลังจากนั้นจะส่ง SMS ไปยังคนใกล้ชิด และระบุตำแหน่งของผู้ป่วย
แอปพลิเคชันเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เอเชียกำลังทำเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและในอนาคตอาจมีนวัตกรรมที่ช่วยให้มีชีวิตยืนยาวยิ่งขึ้น
3. เทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์วิทัศน์
- Groopic Startup จากปากีสถานอย่าง Eyedeus Labs ได้พัฒนาแอปพลิเคชันทางด้านคอมพิวเตอร์วิทัศน์สำหรับสมาร์ทโฟน ในชื่อว่า Groopic โดยให้คนถ่ายรูปมาอยู่ในภาพด้วย ไอเดียแสนเก๋นี้มีการรวม 2 ภาพเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว เสมือนว่าทุกคนถ่ายภาพร่วมกัน จากตัวอย่างด้านล่างนี้
4. ด้านความปลอดภัย
- Eyes on the Road การใช้มือถือขณะขับรถเป็นอะไรที่เสี่ยงอันตรายและผิดกฎหมาย เพิ่มอัตราการเกิดอุบัติเหตุถึง 23% อย่างไรก็ตาม ผู้ขับรถทั่วโลกยังคงใช้มือถืออยู่ ดังนั้น Samsung จึงได้เปิดตัว Eyes on the Road ที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับมือถือน้อยที่สุด แอปพลิเคชันนี้จะเริ่มทำงานเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วเกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และปิดเสียงการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสียงโทรเข้า SMS ฯลฯ แถมผู้ขับยังได้รับรางวัลจากการขับขี่ปลอดภัย อย่าง voucher เติมน้ำมันไปใช้ฟรีๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นตัวอย่างอันชาญฉลาดในการลดอุบัติเหตุ
5. Selfies
- Pinco เป็นแอปพลิเคชันโชว์รูปถ่ายของตัวเองจากเมืองจีน มีความพิเศษคือ สามารถติด Tag ได้ว่าสวมใส่แบรนด์อะไรบ้างในตัว และผู้ใช้ยังสามารถติดตามกระแสแบรนด์ที่ตนเองชื่นชอบได้อีกด้วย
- Nice อีกหนึ่งแอปพลิเคชันจากจีนเช่นเดียวกัน พัฒนาโดยบริษัทเดียวกับ Pinco แต่ต่างกันที่ Nice รองรับการใช้งานร่วมกับ Facebook ด้วย สามารถให้ผู้คนระบุสถานที่ หรือเมืองที่พวกเขาอยู่ทั้ง Pinco และ Nice ปราศจากโฆษณาหรือโปรโมชั่นใดๆ แต่หาเงินจากการแนะนำเคมเปญทางการตลาด สิ่งที่โลกตะวันตกเรียนรู้จากแอปพลิเคชันเหล่านี้ คือ การรวมกันของ Selfies และการโชว์แฟชั่นอันเก๋ไก๋บนตัวผู้ใช้
6. แอปพลิเคชันเปรียบเทียบราคา
- PricePanda จากประเทศแถบตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เป็นแอปพลิเคชันใช้เทียบราคา ทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทางผู้ก่อตั้งเชื่อว่า ร้านค้าบนมือถือจะเป็นอนาคตของเหล่าร้านค้าทั่วทั้งเอเชีย เนื่องจากมีการใช้สมาร์ทโฟนสูงขึ้นในประเทศแถบนี้ โดยเฉพาะมาเลเซียและสิงคโปร์ มีจำนวนผู้ใช้มากกว่าอเมริกาเสียอีก เพราะพบว่าค่าเฉลี่ยของผู้ใช้สมาร์ทโฟนอยู่ที่ 3 ชั่วโมงต่อวัน
7. Ecommerce
- Alibaba ได้รวมกลุ่มบริษัทในโลกอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ จากประเทศจีน ซึ่งควบคุมถึง 80% ในตลาดออนไลน์ เป้าหมายคือเป็นผู้นำในการค้าแบบ Ecommerc เหมือนกับ Amazon และ eBay
ความสำเร็จของ Alibaba คือมีผู้ใช้ถึง 320 ล้านคน และสร้างรายได้ 170 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2012 (คาดว่าจะสูงถึง 420 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2014) นอกจากนี้เหล่าบรรดาหนุ่มสาวไร้คู่ชาวจีนได้ทำการชอปปิ้งในมือถือผ่าน Alibaba ในวัน ‘Singles Day’ สูงถึง 4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าถึง 21% ในวัน ‘Cyber Monday’ ของอเมริกาเสียอีก
โดยสรุปแล้ว ตลาดบนมือถือของชาวเอเชีย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้นวัตกรรมใหม่ๆ มุ่งเป้าไปยังส่วนนี้มากขึ้น ดังเห็นได้จาก การเพิ่มความปลอดภัยกับตัวผู้ใช้ จาก Samsung ช่วยประหยัดเงิน จาก PricePanda ไม่ขาดการติดต่อซึ่งกันและกัน จาก Weixin และ Line และสุดท้าย การโชว์ความเก๋ไก๋ในแฟชั่น จาก Pinco และ Niceถึงเวลาที่เหล่า Startup ต้องเริ่มต้นสร้างแรงบันดาลใจ ใส่ลงไปในโลกมือถือแล้ว
ที่มา : Econsultancy