จำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Instagram ทั่วโลกนั้นมีตัวเลขแตะหลัก 1,000 ล้านบัญชีแล้ว ซึ่ง 80% ของผู้ใช้งานทั่วโลกนั้น ไม่ได้เข้ามาส่องเรื่องราวของเพื่อนเพียงอย่างเดียว แต่มีความสนใจในธุรกิจรายย่อยด้วย หรือพูดง่ายๆ คือผู้ใช้งาน IG นอกจากเข้ามาส่องเรื่องของดารา หรือคนดังทั่วโลกแล้ว การเข้ามาช้อปปิ้งก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้ใช้งานชื่นชอบในการเข้ามาเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์เจ้าของธุรกิจ
ภาพรวมอินสตาแกรมทิศทางดี
คุณชวดี วงศ์พยัต หัวหน้าฝ่ายธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากเข้ามาดูรูป โพสต์รูป แชร์ประสบการณ์ในชีวิตประจำวันแล้ว ผู้ที่เข้ามาใช้งานส่วนใหญ่จะมองหาคอนเทนต์และแบรนด์ที่น่าสนใจ
มีครีเอเตอร์และแบรนด์ทั่วโลกที่ใช้ประโยชน์อย่างหลากหลายและประสบความสำเร็จในการต่อยอดธุรกิจ จากบัญชีผู้ใช้งานกว่า 200 ล้านบัญชีต่อวัน จะเข้าชมข้อมูลของธุรกิจอย่างน้อย 1 โปรไฟล์/วัน และมีผู้ใช้งาน Stories สูงถึง 500 ล้านคนต่อวัน
ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่มีการใช้งานอินสตาแกรมสูง แต่ก็ไม่สามารถบอกตัวเลขที่ชัดเจนในประเทศไทยได้ และเมื่อถามถึงบัญชีผู้ใช้งานทั่วไปผันตัวมาเป็นเจ้าของธุรกิจรายย่อย ทางอินสตาแกรมก็ไม่สามารถบอกการโอนย้ายที่ชัดเจนได้เช่นกัน แต่มั่นใจว่าจะมีการเข้ามาใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนไทยชอบขายของบนไอจี
นอกจากนี้ ผู้คนค้นหาแฮชแท็กเกี่ยวกับสินค้าที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น #เสื้อผ้าเกาหลี #เสื้อผ้าแนวสตรีท #กางเกงขายาว #พร้อมส่ง #เสื้อผ้าราคาถูก #กางเกงยีนส์ เป็นต้น โดยแฮชแท็ก 10 อันดับแรกยังคงเกี่ยวกับเรื่องแฟชั่น ที่สร้างโอกาสให้แก่ร้านค้าขนาดเล็กได้เข้าถึงลูกค้าในประเทศไทยทุกพื้นที่
หรือการไปโพสต์ขายสินค้าผ่านอินสตาแกรมของดาราชื่อดังอย่าง ญาญ่า อุรัสยา, ใหม่ ดาวิกา, ชมพู่ อารยา, ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ก็อาจเพิ่มการติดตามได้ดีขึ้น เพราะคนดังเหล่านี้มีจำนวนผู้ติดตามเพิ่มขึ้นทุกวัน และแน่นอนว่าคนชอบอ่านคอมเม้นท์
อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 ที่ผ่านมา ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามในไทยเติบโตขึ้น ร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับปี 2560 คิดเป็นมูลค่า 1.918 แสนล้านบาท ทำให้กลุ่มสินค้าด้านบำรุงผิวหรือสกินแคร์ยังคงเป็นหมวดสินค้าที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด ส่วนตลาดแฟชั่นไทยคาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 1.67 หมื่นล้านบาท
สร้างความสำเร็จทางธุรกิจทุกระดับแบรนด์
ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Stories, Direct Messege ที่เปิดให้บริการไม่นาน แต่กลับได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ทางทีมอินสตาแกรมพัฒนาความสามารถของเครื่องมือได้ดีขึ้น ผ่านเทคนิคเหล่านี้
- เลือกการถ่ายภาพหรือวีดีโอแนวตั้ง เพราะจะช่วย Fit Frame มือถือได้ดีว่า
- Stories นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ควรหัดใช้งานให้เกิดประโยชน์ และกำลังจะกดสั่งซื้อสินค้าผ่านสตอรี่ได้แล้ว
- ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจให้ครบ เช่น สินค้าเกี่ยวกับอะไร ติดต่ออย่างไร เพื่อให้คนสนใจกดจองหรือโทรสั่งได้ทันที
- ข้อมูลเชิงลึก (Insight) ใช้งานได้ฟรี เข้าไปดูว่ามีใครมาส่องธุรกิจของคุณบ้าง กลุ่มเป้าหมาย อายุ ฯลฯ เพื่อทำตลาดได้ตรงจุดแต่ถ้าอยากได้แบบละเอียดสามารถจ่ายเงินซื้อข้อมูลส่วนนี้กับทางอินสตาแกรมได้
- แฮชแท็กยังคงสำคัญเสมอ ใส่คำที่ข้องเกี่ยวกับแบรนด์หรือสินค้าทุกครั้ง เพิ่มโอกาสทางการค้นหาได้
- ไม่ใช่สร้างแต่คอนเทนต์ ต้องสื่อสารกับลูกค้าด้วย เมื่อมีคนถามเข้ามาต้องตอบให้ไว ตอนนี้มีเครื่องมือ Quick Reply ช่วยในการตอบคำถามแล้ว นำไปใช้ให้ตรงจุด
- อย่าลืมใส่ช่องทางการติดต่อทุกครั้ง ควรเป็นเบอร์โทร แชท หรือข้อความที่จะสื่อสารกับเจ้าของแบรนด์หรือแอดมินได้อย่างรวดเร็ว เพราะคนสมัยนี้ตัดสินใจซื้อเร็ว
แม้ว่าลูกค้าจะสามารถสอบถาม สั่งจอง สั่งซื้อสินค้าของคุณได้ แต่ยังไม่สามารถโอนเงินผ่านระบบเพย์เมนท์บนอินสตาแกรมได้ ดังนั้น ควรเปิดบัญชีที่น่าเชื่อถือเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ ในการสั่งซื้อสินค้าว่าจะไม่ถูกหลอก
ใครที่กำลังมองหาโอกาสสร้างรายได้เสริมเล็กๆ น้อยๆ ก็ลองนำเครื่องมือเหล่านี้ไปใช้กัน ซึ่งจะเป็นแบรนด์ขนาดใหญ่ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่โลกออนไลน์หรือพนักงานบริษัท แม่บ้านฟูลไทม์ที่อยากได้เงินเพิ่ม ลองหาสินค้ามาซื้อขายบนช่องทางนี้กัน เพราะอินสตาแกรมดีตรงที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าสู่แพลตฟอร์ม แค่ต้องบริหารจัดการเรื่องเพย์เม้นท์และโลจิสติกส์ให้ดีเท่านั้น