ย้อนดูหลากหลายเหตุผลที่ทำให้ Facebook เตรียมจะเปลี่ยนชื่อ Instagram และ WhatsApp โดยเพิ่มคำว่า “from Facebook” ทำให้ชื่อใหม่จะกลายเป็น Instagram from Facebook และ WhatsApp from Facebook
เว็บไซต์ The Information รายงานว่าบริษัทผู้ให้บริการ Social Media รายใหญ่อย่าง Facebook เตรียมจะเปลี่ยนชื่อ Instagram และ WhatsApp โดยเพิ่มคำว่า “from Facebook” ทำให้ชื่อเดิม Instagram จะกลายเป็น Instagram from Facebook ส่วนชื่อเดิม WhatsApp จะกลายเป็น WhatsApp from Facebook
โดยการเปลี่ยนแปลงชื่อนี้ จะแสดงผลในหน้าล็อกอินของแอปทั้งบน iOS และ Android รวมถึงจะเปลี่ยนชื่อที่แสดงบน Play Store และ App Store อีกด้วย ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ดังกล่าวก็มีรายงานออกมาเช่นกันว่า Facebook ทดสอบเปลี่ยนชื่อทั้งสองแพลตฟอร์มอีกด้วย
น่าสนใจว่า การเปลี่ยนชื่อนี้เกิดหลังจากผู้บริหารคนสำคัญของ Instagram และ WhatsApp ตบเท้าลาออกจากบริษัทเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา
และอย่าลืมว่า Mark Zuckerberg ก็เคยประกาศว่าจะทำให้ทุกแพลตฟอร์มมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยใช้คำว่า “Privacy-focused social network” และเคยมีข่าวว่า Facebook พยายามรวมระบบหลังบ้านของ Facebook Messenger, WhatsApp และ Instagram Direct เข้าด้วยกันอีกด้วย
แม้ว่าโฆษกหญิงของ Facebook กล่าวในการแถลงข่าวว่า “เราต้องการสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของเราที่เป็นส่วนหนึ่งของ Facebook” เท่านั้น เพื่อย้ำความบริสุทธิ์ในในการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้
แต่ก็อย่าลืมว่า Federal Trade Commission หรือ FTC (คล้าย ๆ กสทช. บ้านเรา) กำลังสอบสวนว่า Facebook กำลังเป็นผู้เล่นรายเดียวที่มีอำนาจต่อรองสูงหรือไม่ โดยมองว่าการซื้อกิจการคู่แข่งอย่าง Instagram และ WhatsApp เข้ามาเพื่อลดการแข่งขันและสร้างอำนาจของตัวเองในอุตสาหกรรมหรือไม่
ซึ่งต้องลุ้นว่า FTC จะดำเนินการถึงขั้นปรับเงินย้อนหลังกับ Facebook ในกรณีซื้อ Instagram และ WhatsApp ด้วยหรือไม่
หรือเปลี่ยนชื่อเพราะต้องการย้ำความยิ่งใหญ่ของ Facebook?
ถึงอย่างไรก็ตาม Facebook ก็เคยเปลี่ยนชื่อกิจการที่ซื้อเข้ามาอย่าง Oculus มาเป็น Oculus from Facebook ก่อนหน้านี้นานแล้วรวมถึงยังตั้งชื่อบริการ Workplace ของตัวเองเป็น Workplace by Facebook ไปแล้วเช่นกัน
ส่วนแอปย่อยๆ อย่าง Boomerang ของ Instagram ก็ยังตั้งชื่อเป็น Boomerang from Instagram เช่นกัน
ซึ่งสุดท้าย เป็นไปได้ว่า อาจเป็นเรื่องของการปรับแบรนด์เพื่อสะท้อนว่าทุกแอปและแพลตฟอร์มทั้ง Instagram, WhatsApp, Workplace, Oculus และอื่นๆ ล้วนเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ Social Media เบอร์หนึ่งของโลกอย่าง Facebook นั่นเอง
ประกอบกับความนิยมของ Facebook ที่มาจากคนรุ่นใหม่นั้นเริ่มมีน้อยลงไปทุกที ในขณะที่ Instagram กลับได้ความนิยมจากคนรุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา: The Information, Bloomberg, TechCrunch, The Indepedent และ The Verge