ประเภทคอนเทนต์ที่มาแรงที่สุดในหลายปีมานี้คงหนีไม่พ้นวิดีโอสั้น ที่สามารถดึงดูดความสนใจและใครเลื่อนเจอก็ต้องหยุดดู นักการตลาด 89% เชื่อว่าวิดีโอแนวตั้งจะเป็นอาวุธหลักของกลยุทธ์การตลาดผ่านแพลตฟอร์ม Tiktok, Instagram และ Facebook
ในเมื่อมีให้เลือกหลายหลากแพลตฟอร์มแล้วช่องทางไหนเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม วันนี้ Thumbsup จะเปรียบเทียบข้อมูลระหว่าง TikTok และ Instagram Reels ให้เลือก
ทำความรู้จัก Instagram Reels
Instagram Reels เปิดตัวในเดือนสิงหาคมปี 2020 เป็นฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติมของ Instagram ให้ผู้ใช้แชร์เนื้อหาวิดีโอสั้นในแนวตั้งได้เต็มจอ มีความยาวระหว่าง 15 ถึง 60 วินาที สามารถตัดต่อหลายคลิปเข้าด้วยกัน เพิ่มฟิลเตอร์ และเลือกเพลงได้ในคลังเพลงของแอพ
กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับผู้ใช้ในการเผยแพร่เนื้อหาได้ทั้งใน Instagram และ Facebook รวมถึงสามารถแชร์ลงในพื้นที่ที่มีความ FOMO(Fear of missing out) อย่าง Stories ได้อีกด้วย
ทำความรู้จัก TikTok
แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นแนวตั้งยอดนิยม ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่น เปิดกว้างให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์คลิปวิดีโอได้มากมายหลายรูปแบบ ทั้งการลิปซิงค์ ตัดต่อ ฟิลเตอร์เอฟเฟ็กจำนวนมาก
เมื่อผู้คนถูกบังคับให้อยู่แต่ในบ้านเมื่อเดือนมีนาคม 2020 ผู้ใช้จึงหันมาใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเชื่อมต่อและสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง TikTok กลายเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนติดอันดับทั้งอุปกรณ์ iOS และ Android ในปี 2020 และ 2021
หน้า For You ของ TikTok ทำงานด้วยระบบอัลกอริทึมขั้นสูงที่ศึกษาความสนใจของผู้ใช้เพื่อแนะนำวิดีโอถัดไป วิดีโอจึงกระตุ้นความสนใจได้ทุกครั้งที่เลื่อนฟีด
ด้วยความสำเร็จของ TikTok ในเนื้อหาวิดีโอสั้นแนวตั้ง แพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ เริ่มเปิดตัววิดีโอแนวตั้งของตัวเองไม่ว่าจะเป็น Instagram Reels และ YouTube Shorts
แพลตฟอร์มไหนดีกว่ากัน?
ทั้ง Instagram Reels และ TikTok มุ่งเน้นคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีเนื้อหาที่ทันสมัย ดังนั้น TikTok ได้คะแนนนำด้วยความที่ผู้ใช้คุ้นชินมาก่อนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาตลาดที่อิ่มตัวน้อยกว่า Instagram Reels ก็ยังเป็นโอกาสของแบรนด์ในการไปสร้างพื้นที่ให้ผู้คนได้ติดตาม
ธุรกิจและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ส่วนใหญ่มักใช้ทั้ง Instagram Reels และ TikTok เพื่อเข้าถึงผู้ชมจากทั้งสองแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกันได้ โดยเคล็ดลับคือต้องมีเนื้อหาที่สดใหม่และไม่ซ้ำใคร ถึงจะสามารถดึงดูดผู้ชมได้อย่างทวีคูณ ทำความเข้าใจเนื้อหาที่ยอดนิยมของแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อปรับเนื้อหาและสร้างเนื้อหาสำหรับการสื่อสารที่เหมาะสม