มีผลการสำรวจออกมาแล้วพบว่า โฆษณาแบบ Interactive สามารถช่วยให้ผู้บริโภคใช้เวลารับชมโฆษณาดังกล่าวมากขึ้นถึง 47% เมื่อเทียบกับโฆษณาแบบ Non-interactive โดยผู้ที่ออกมาเปิดเผยคือ Magna บริษัทด้าน Media Strategy ของ IPG Media Lab ที่พบว่าโฆษณาในลักษณะดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคใช้เวลากับโฆษณาชิ้นนั้นเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า
อีกสิ่งหนึ่งที่ Magna พบก็คือ ถึงแม้ผู้ชมจะไม่คลิกใด ๆ บนโฆษณาแบบ Interactive เลย แต่จะสามารถจดจำคอนเทนต์ของโฆษณาได้ดีกว่าถึง 32% เมื่อเทียบกับโฆษณาแบบ Non-interactive และสามารถสร้างความสนใจซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ได้มากกว่าเดิมถึง 9 เท่า
ทั้งนี้ การสร้างโฆษณาแบบ Interactive ด้วยการใส่เกม หรือกิจกรรมที่เน้นความบันเทิงจะช่วยยืดเวลาการรับชมโฆษณาชิ้นนั้น ๆ เพิ่มขึ้นประมาณ 15% ด้วย
ซึ่งเราขอตัวอย่างโฆษณาแบบ Interactive – VR ที่น่าสนใจมาฝากกันดังนี้
โฆษณาจาก Boursin ซึ่งพาผู้ชมลัดเลาะไปตามส่วนต่าง ๆ ของตู้เย็นที่ออกแบบมาได้โดนใจผู้รักสุขภาพ เพราะมีผักต่าง ๆ อยู่เต็มไปหมด
นอกจากนั้นก็ยังมีโฆษณาจากค่าย Reeses ที่นำขนมปังกรอบของตนเองมาเล่นเป็นเกม PACMAN ซึ่งสามารถไปเล่นเกมต่อได้ในเว็บเบราเซอร์ด้วย
https://youtu.be/qLXdUmh49Jk
ที่มา: MobileMarketer