ต้องยอมรับว่าสื่อการเรียนการสอนของไทยมีอยู่อย่างจำกัด ยิ่งเป็นเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่เอื้อประโยชน์เชิงสร้างสรรค์ยังมีน้อย การที่มีผู้ให้บริการรวมเทคโนโลยีและครีเอทีฟดีไซน์ทำให้เป็นสวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟเต็มรูปแบบครั้งแรกในไทย น่าจะช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
แรกเริ่ม บิท สตูดิโอ ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและสร้างสรรค์เทคโนโลยี โดยเฉพาะการพัฒนาสร้างสรรค์เทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟ จากฝีมือคนไทยรุ่นใหม่ที่มองเห็นศักยภาพของนักพัฒนาเทคโนโลยี และดีไซน์เนอร์ไทย มีฝีมือและมีความคิดสร้างสรรค์ไม่แพ้ต่างประเทศ ที่ผ่านมาบริษัทจึงได้พัฒนาและสร้างสรรค์เทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟออกสู่ตลาดโลก และเป็นที่ยอมรับทั้งใน สหรัฐอเมริกา อิตาลี และญี่ปุ่น โดยการพัฒนาเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟหลากหลายรูปแบบ
บิท สตูดิโอ เตรียมจะเปิดตัว bit.playground (บิท.เพลย์กราวด์) สวนสนุกดิจิทัลอินเตอร์แอคทีฟเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทยที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ หวังเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่คนไทยและต่างชาติจะไม่ยอมพลาด เพราะมีระยะเวลาเพียง 7 เดือนที่เปิดให้บริการ ก่อนจะนำผลงานบางส่วนไปให้บริการที่ซานฟรานซิสโกและโตเกียว ในเดือนพฤษภาคมนี้
นายเกียรติยศ พานิชปรีชา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิท สตูดิโอ จำกัด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บริษัทเป็นที่ยอมรับในกลุ่มธุรกิจ b2b ในต่างประเทศด้านการสร้างสรรค์เทคโนโลยีเชิงธุรกิจ ซึ่งการทำ bit.playground (บิท.เพลย์กราวด์) ครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่บุกตลาด B2c หวังเปิดโอกาสให้คนได้มีโอกาสเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ สร้างสรรค์ชิ้นงานของตัวเองได้อย่างสนุกสนาน และเห็นประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ เป็นการทะลายกรอบทัศนคติของเทคโนโลยีว่าเป็นเพียงแค่การสัมผัสจอ หรือรับสารจากหน้าจอมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว
“ปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีทำได้เพียงการรับสารจากหน้าจอด้วยการทัชสกรีนเพียงอย่างเดียว ส่งผลพ่อแม่ผู้ปกครองตื่นตัวในการปกป้องลูก ให้ออกห่างจากการเทคโนโลยี เพราะเชื่อว่ามีผลต่อพัฒนาการล่าช้าหรือสมาธิสั้น ในขณะกลุ่มผู้ใหญ่เองก็เริ่มจำกัดการใช้เทคโนโลยีลงด้วยเช่นกัน ในความเป็นจริงคำว่า “เทคโนโลยี” นั้น กว้างกว่าแค่ “หน้าจอ” และ “เทคโนโลยี” คือกระบวนการคิด สร้างสรรค์ และนำข้อมูลต่างๆ มาใช้ในวิธีใหม่ เพื่อประดิษฐ์เป็นรูปแบบใหม่ สร้างปฏิสัมพันธ์กับคน ซึ่งอยากนำเสนอส่วนนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้เข้าถึงมันมากกว่าเดิม
ผู้เล่นสามารถสัมผัสเทคโนโลยีในแง่มุมที่ต่างจากเทคโนโลยีทั่วไป และเห็นว่าไม่ได้จำกัดอยู่แต่จอ แต่คือกระบวนการสร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่หาจากที่อื่นไม่ได้ รวมทั้งทีมงานที่มาพัฒนาสร้างสรรค์เป็นคนไทยทั้งหมดทำให้การสร้างสรรค์เป็นไปอย่างไม่รู้เบื่อใน 10 สเตชั่น ประกอบไปด้วย Dinoroar, Shadow Forest, Land & Sea, Little Records, Magical Bangkok, Live Puppet, Three Little Pigs, Pizza Whizza, 3D Grand Prix และ Graphic Ball Pool โดยในทุกสเตชั่นจะเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ล้ำสมัย อาทิMachine Learning/AI, 3D Scanning, Motion Detection และ AR มาประยุกต์ใช้ให้เกิดการเล่น การแข่งขัน ที่สนุกสนานอย่างลงตัว
โดยกลุ่มเป้าหมายของ บิท.เพลย์กราวด์ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มครอบครัว ทั้งผู้ปกครองและเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป กลุ่มคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยี กลุ่มคนครีเอทีฟ และกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
และในเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทฯ จะนำผลงานบางส่วนไปจัดแสดงในเมืองซานฟรานซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะจัด บิท.เพลย์กราวด์ เต็มรูปแบบในประเทศไทย บนพื้นที่ 530 ตร.ม. ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ นานถึง 7 เดือน เริ่มตั้งแต่ กรกฎาคม 2561-มกราคม 2562 โดยผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดต่างๆก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ที่ https://facebook.com/thebitstudio/ ลองชมคลิปแนะนำ bit playground กันดูได้ค่ะ