Site icon Thumbsup

Interspace เอเยนซีโฆษณาออนไลน์จัดงานแถลงข่าวพร้อมบุกไทยขึ้นเป็นผู้นำ

ภายใต้ชื่อบริษัท Access Trade ผู้ให้บริการโฆษณาออนไลน์อย่าง Interspace ผู้อยู่เบื้องหลังแคมเปญดังฝั่งแดนอาทิตย์อุทัยหวังชูการตลาดแบบ Affiliate Marketing ให้เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากขึ้น

หลังการตลาดออนไลน์ออนไลน์ในประเทศไทยเริ่มมีความนิยมที่แพร่หลายมากขึ้น บริษัทต่างชาติต่างหันมาให้ความสนใจการทำการตลาดในประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตไว ศักยภาพสูง แต่การแข่งขันยังไม่รุนแรงมากนัก

ภายในงานแถลงข่าวเปิดตัว Access Trade เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา ณ อาคาร Horizon ชั้น 2 ณ  StEREO Bar & Restaurant ที่บรรยากาศการแถลงข่าวเป็นไปอย่างเรียบง่ายและเป็นกันเอง

นายโชเฮ ฟุจิตะ (Shohei Fujita), Director of Interspace (Thailand) Co.,Ltd ได้เผยเหตุผลที่ทาง Interspace ให้ความสนใจในประเทศไทยว่า ประเทศไทยนั้นมีอัตราการเติบโตของการตลาดออนไลน์ที่โตไว ตัวเขาเองมองว่าประเทศไทยนั้นจะสามารถพัฒนาจนกลายเป็นศูนย์กลางที่ส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแน่นอน

ในขณะที่ทางนายชินอิจิโร คาวาบาตะ (Shinichiro Kawabata), Director of Interspace (Thailand) Co.,Ltd. เผยว่า Access Trade นั้นจะเข้ามาทำการตลาดออนไลน์ในไทยโดยสร้างการรับรู้ให้สินค้าและแบรนด์ พร้อมทั้งให้คำปรึกษาในการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มจำนวน click ผ่านการฝากลิงค์บนหน้าเว็บไซต์ต่างๆที่เข้ามาเป็น publisher

โดยก่อนหน้านี้ทางเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทาง Interspace ที่มองเห็นศักยภาพของตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ขยายการลงทุนโดยเปิดบริษัทที่ประเทศอินโดนีเซียภายใต้ชื่อ PT.INTERSPACE INDONESIA ก่อนหันมาลงทุนในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายน และได้แถลงการณ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา

โดยนายชินอิจิโร มองว่าบริษัท Access Trade นั้นจะสามารถก้าวขึ้นเป็นเอเจนซีการตลาดออนไลน์ชั้นแนวหน้าของไทยได้ไม่ยาก ด้วยการบริการ ไอเดีย และแนวคิดใหม่ๆในการทำการตลาดออนไลน์ทำให้เอเจนซีของพวกเขามีจุดขายที่ต่างออกไป

ส่วนนายยูยะ นากะ (Yuya Naka), CEO of Interspace (Thailand) Co.,Ltd. ได้พูดถึงแนวทางการทำงานของเอเจนซีหลังจากนี้ต่อไปว่า พวกเขาตั้งใจเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นแบรนด์ไทย โดย 80% ของสัดส่วนลูกค้า พวกเขาต้องการลูกค้าที่เป็นแบรนด์ของไทย ในขณะที่ 20 % ที่เหลือนั้นเป็นแบรนด์ต่างประเทศที่มาตั้งฐานในประเทศไทย ทั้งนี้เพราะเขาต้องการให้ Access Trade นั้นทำธุรกิจประหนึ่งว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทที่เกิดและเติบโตขึ้นในประเทศไทยโดยแท้