เชื่อว่าคนรุ่นใหม่หลายคนที่มีความฝันอยากทำอาชีพสร้างสรรค์เนื้อหาออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Blogger, Youtuber, Influencer หรือในฝั่งของ Facebook Page ที่เราเรียกกันว่า Content Creator

ซึ่ง RAiNMaker เว็บสังคมของผู้สร้างเนื้อหาออนไลน์ในไทย ได้ประกาศจัด iCreator Conference 2019 งานรวม Content Creator ครั้งใหญ่ในไทย ซึ่งกระแสแรงจนบัตรกว่า 1,500 ที่นั่ง ถูกจับจองหมดภายใน 48 ชั่วโมงเท่านั้น

เราลองมาฟังเบื้องหลัง ที่มาที่ไปของการจัดงานในครั้งนี้ รวมถึงเทรนด์ของการสร้างเนื้อหาออนไลน์ที่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2020 ข้างหน้านี้ด้วย

เพราะเทรนด์ของคอนเทนต์ เปลี่ยนใหม่ทุกวัน

คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ ผู้บริหารบริษัท เดอะซีโร่ พับลิชชิ่ง จำกัด (The Zero Publishing) เจ้าของเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Mango Zero, Parents One, Thumbsup in Thailand, GG2 และ RAiNMaker ได้เล่าให้ฟังว่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงของโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทำให้รูปแบบการทำคอนเทนต์ของคนที่อยากเป็นครีเอเตอร์ต้องปรับตัวให้ทัน

แม้ว่าจำนวนผู้ใช้งาน Facebook ในเมืองไทยจะเติบโตขึ้นทุกปี ล่าสุดอยู่ที่ 53 ล้านบัญชีแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าอัลกอริธึ่มของ Facebook ก็ปรับเปลี่ยนบ่อยมากเช่นกัน หากตามไม่ทันอาจเสียโอกาส

คนที่เคยดูแลเพจหรือดูแลโซเชียลมีเดียให้แบรนด์หรือของตนเองก็ตาม ต้องเคยเจอปัญหาทำคอนเทนต์แล้วคนไม่สนใจ, ยอด reach แทบจะเป็นศูนย์ หรือลงเม็ดเงินไปจำนวนมากแต่ไม่มียอดขายกลับมา

นอกจากนี้ การที่หลายแบรนด์เข้ามามีบทบาทในการเป็น Content Publisher มากขึ้น ด้วยต้นทุนในการสร้างเนื้อหาที่ถูกลง แน่นอนว่าคู่แข่งก็จะเกิดขึ้นทุกวัน

เมื่อปีที่แล้วเราเคยเห็นคอนเทนต์ทำภาพ GIF ขยับไปมาให้คนเลือกได้ ต่อมาเราเป็นการทำภาพแนวตั้งแบบยาวๆ ให้คนกดดู มาต้นปีนี้มีกระแสทำภาพ 3 มิติ ช่วงกลางปีหลายแบรนด์ก็นิยมทำ Stories จะเห็นว่าแค่ไม่กี่เดือน กระแสการทำคอนเทนต์ก็เปลี่ยนไปมาตลอดเวลา

หรือแนวคิดการทำคลิปวิดิโอแบบเดิม ก็เริ่มต้องปรับใหม่ เมื่อคนดูเริ่มชอบการชมคลิปในแนวตั้ง มากกว่าแนวนอน เพราะสมาร์ทโฟนในมือของเราจะแสดงผลเป็นแนวตั้ง ตัวอย่าง BBC เคยทดลองทำคลิปข่าวแนวตั้งทั้งหมด พบว่าเพิ่มยอดการรับชมได้มากถึง 20-30% เลยทีเดียว

การเรียนรู้จาก Content Creator ตัวจริง สำคัญกับแบรนด์และเอเจนซี่มาก

ถ้ามองออกไปตอนนี้เราจะพบกูรูด้านการตลาดออนไลน์เยอะมาก รวมถึงอีเวนต์ด้านการตลาดก็มีให้เลือกชมได้หลากหลาย ซึ่งเป็นเรื่องดี แต่หากโฟกัสไปที่ตัวคอนเทนต์จริงๆ นักการตลาดหลายคนก็อาจจะไม่ได้เชี่ยวชาญในการทำคอนเทนต์ มากไปกว่า Content Creator ตัวจริงในตลาด

อีกเรื่องคือแพลตฟอร์มที่เราทำเนื้อหาอยู่ ก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้ง Facebook, YouTube, Twitter หรือแม้แต่ LINE จะดีแค่ไหนถ้าเราเอาสองสิ่งนี้มาเจอกัน คือทั้งกลุ่ม Content Creator และเจ้าของแพลตฟอร์มต่างๆ เลยเกิดเป็นงาน iCreator Conference ครั้งแรกนี้ ซึ่งผลตอบรับก็ดีจนน่าตกใจมาก เพราะบัตรขายหมดภายในแค่ 48 ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่าคนไทยสนใจเรื่องคอนเทนต์จริงๆ

คุณขจร ยังกล่าวเสริมอีกว่า ผมเคยเห็นการจัดงานใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเหล่าครีเอเตอร์มากมายในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Content Marketing World, Web Summit และ TNW Conference ต่างก็เป็นงานอีเว้นท์ที่รวมเหล่าครีเอเตอร์และแพลตฟอร์มไว้มากมาย สามารถดึงดูดคนจากทั่วโลกที่ทำงานด้านนี้ไว้มากมาย และอยากจะทำให้เกิดขึ้นสักครั้งในเมืองไทย

ประสบการณ์จากงาน Meet up สู่งานใหญ่ระดับ Conference

ทางด้านของคุณจีระภา สุริสุข บรรณาธิการเพจ RAiNMaker กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเทรนด์ดังกล่าวที่คุณขจรเล่ามาข้างต้น จะเห็นได้ว่าโซเชียลมีเดียเปลี่ยนเร็วมากและพฤติกรรมของคนที่ใช้งานบนโลกออนไลน์ก็เปลี่ยนไปจากเดิมมาก

ก่อนหน้านี้ ทางทีม RAiNMaker ได้จัดงาน iCreator Meetup เพื่อพบปะกับคนในแวดวงคอนเทนต์ จำนวน 100-120 คน ซึ่งในการจัดงานทุกครั้งก็ได้รับการตอบรับเต็มทุกที่นั่งมาโดยตลอด

ไม่ว่าจะเป็น iCreator Meetup ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ Content Creator Trend 2019 ต่อมาครั้งที่ 2 มากับหัวข้อ Podcast Universe พาคุณเข้าสู่จักรวาลแห่งการเล่าเรื่องด้วยเสียง หลังจากนั้น ครั้งที่ 3 จัดในหัวข้อ Beauty Inside & Inspire รู้ลึกรู้จริงกับคนทำคอนเทนต์บิวตี้ ส่วนครั้งที่ 4 กับหัวข้อ YouTube Trending และครั้งที่ 5 กับหัวข้อ SEO & Web Optimize (for Content Creator)

ซึ่งการจัดงานทุกครั้งมีผู้ให้ความสนใจและจองที่นั่งเข้ามาร่วมฟังทุกครั้ง โดยเราเชื่อว่ามีคนที่เข้าร่วมฟังข้อมูลและนำข้อมูลไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเองไม่น้อยกว่า 500 คนแล้ว

ทั้งนี้ เราจึงมั่นใจในศักยภาพของทีมงานและจัดงาน iCreator Conference 2019 ในครั้งนี้ขึ้น เพราะมุ่งหวังให้คนที่ต้องทำงานด้านคอนเทนต์ อย่างครีเอเตอร์ แอดมิน และนักการตลาดได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ ซึ่งเราได้รวบรวมคนมีฝีมือบนโลกออนไลน์มากมาย

ไม่ว่าจะเป็น  คุณเต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับชื่อดัง, พี่เอ็ด 7 วิ, กอล์ฟมาเยือน, I Roam Alone, เดียร์ลอง, เทพลีลา, Gluta Story, GetTalks, a day, The Standard, The Matter , Salmon House รวมถึงแบรนด์ชื่อดังที่โดดเด่นในการสร้างเนื้อหาออนไลน์ ทั้ง KBank, Grab, Wongnai, Pentel และ Major Cineplex ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่พัฒนา Content จนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และสามารถต่อยอดในเชิงธุรกิจได้

นอกจากนี้ ยังมีแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลกขึ้นมาให้ความรู้ด้วย อย่าง Facebook, Twitter, YouTube, Google และ LINE เพื่อแนะนำข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ การใช้แพลตฟอร์มสร้างโอกาสทางรายได้ ไปจนถึงการบูสต์โพสต์อย่างไรให้ได้ผลและคุ้มค่าเงิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้หาไม่ได้จากงานอื่นๆ ทางทีม RAiNMaker จึงอยากให้ทุกคนเข้ามาร่วมนำความรู้ไปปรับใช้กัน

 

Disclaimer : เว็บ Thumbsup อยู่ในเครือ The Zero Publishing เช่นเดียวกับเว็บ RAiNMaker