Site icon Thumbsup

กมลภัทร แสวงกิจ เปิดใจรีวิวสำคัญกว่าเซลล์ จาก DDproperty ธุรกิจคนกลางขายบ้าน

ทีมงาน thumbsup ได้พูดคุยกับ คุณกมลภัทร แสวงกิจ  Country Manager ประจำประเทศไทยของ DDproperty เว็บไซต์ซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ยอดนิยม  ในเรื่องของเทรนด์อสังหาริมทรัพย์ในปีหน้า  พื้นที่อสังหาสุดร้อนแรง  และประเด็นเรื่องของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง  อยากชวนให้ลองมาอ่านบทสัมภาษณ์นี้กันค่ะ

บริการของ DDproperty

ให้บริการข้อมูลในเรื่องของตั้งแต่โครงการ  มีการีวิวโครงการ  รวมถึงฝากซื้อขายเมื่อเป็นเจ้าของทรัพย์แล้ว  ในลักษณะที่เป็น City Living  ด้วยการพาลูกค้าไปชมในโลเคชั่นต่างๆ  ซึ่งบางครั้งเขาอาจจะรู้จักแต่ชื่อ  แต่ไม่รู้จักว่าในพื้นที่นั้นดีอย่างไร  และข้อมูลเหล่านั้นก็มีพร้อมใน  DDproperty อยู่แล้ว

โดยลักษณะการทำงานของเราจะทำร่วมกับหลายๆ ประเทศในภาคพื้นเดียวกัน  ซึ่งถ้าดูภาพรวมจะพบว่าตลาดของเรามี Market Share 55%  และเติบโตประมาณ 25% ขึ้นมาทุกปี  เรียกได้ว่าใน 2 คนต้องมี 1 คนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราแน่นอน

เทรนด์อสังหาริมทรัพย์ปี 2019

ในแง่ลักษณะอสังหาจะคล้ายๆ เดิม  ซึ่งคอนโดจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มียูนิตเยอะที่สุด  เพราะมียอดการเติบโตมากที่สุด  และมียอดราคาสูงสุดในแง่ของการเฉลี่ย  แต่ในแง่ของราคาผู้พัฒนาจะมาเจาะในจุดที่เป็น Luxury มากขึ้น

ซึ่งใน DDproperty Index เองก็มีการแสดงข้อมูลล่าสุดว่าตัวเลขของ Luxury โปรเจกมียอดราคาสูงที่สุด  นอกจากนั้นแนวโน้มของคอนโดมิเนียมยังมีผลตอบรับดีที่สุด  เพราะมีอุปสงค์อุปทานในตลาดเยอะ

คำแนะนำสำหรับคนอยากซื้อบ้าน

โดยปกติการเลือกซื้อบ้านจะมีระยะเวลา 6-8 เดือน  ในการค้นหาข้อมูล  และส่วนใหญ่จะใช้เว็บไซต์  ส่วนสิ่งที่ควรรู้ในการซื้อบ้านหนึ่งหลังนั้นคือ

คำแนะนำสำหรับคนอยากขายบ้าน

แยกเป็นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มที่เป็นตัวเทน  DDproperty มีการจัดทำข้อมูลทุกๆ ไตรมาส  ซึ่งรวมไปถึงแนวโน้มของราคาที่สูงขึ้น ต่ำลง  ตรามช่วงเวลา  ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอาข้อมูลจุดนี้ไปใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์เพิ่มเติมได้

ในส่วนที่เป็นตัวแทน เจ้าทรัพย์นั้น  ทาง DDproperty จะมี Listing ให้ประชาชนทั่วไปมาประกาศฝากซื้อ-ขาย  โดยเรามี  Listing รวมมากกว่า 200,000 รายการ  ซึ่งในบางช่วงจะมีมากถึง 350,000 รายการ  เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมที่ Target Group คือคนต้องการเช่า ซื้อ ขาย เข้ามาใช้ในแหล่งนี้ได้

แต่ส่วนของบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์เอง  เราก็จะมองข้ามไม่ได้  เพราะว่าในบางโลเคชั่น  และไลฟ์สไตล์ของคนบางกลุ่มก็จะเปลี่ยนไป  อย่างคนที่เป็น first jobber ที่เป็นนักศึกษาก็อาจจะอยู่คอนโดมิเนียม  เพราะใช้ชีวิตค่อนข้างรวดเร็วในเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นหลักหากอยู่ใมเมือง  แต่ถ้าเริ่มมีครอบครัวคอนโดมิเนียมก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด  นอกจากนั้นยังมีเทรนด์ในส่วนของโครงการ Mix Uses ที่จะมีทั้งมที่อยู่อาศัยและรีเทลล์ซึ่งจะเปิดตัวมากยิ่งขึ้น

ความกังวลเรื่อง “ฟองสบู่อสังหา”

รัฐบาลมีทิศทางหลายๆ อย่างที่นำออกมาป้องกันเรื่องนี้  ทำให้ทุกภาคส่วนเกิดการตื่นตัว  ซึ่งผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพท์ก็จะตื่นตัว  นักเก็งกำไร ธนาคาร ก็จะตื่นตัว  และธนาคารที่ให้เงินกู้ซื้ออสังหาริมทรัพท์ก็ตื่นตัวตามไปด้วย  ทำให้เท่าที่ดูแล้วเป็นไปได้ยาก

พื้นที่อสังหาริมทรัพย์สุดร้อนแรง

พื้นที่ที่ร้อนแรงในช่วงต้นปีที่ผ่านมาถึงกันยายนที่ผ่านมา  เราได้มีการสำรวจข้อมูลจาก Listing กว่า 300,000 รายการ  ทำให้ได้ข้อมูลว่าถ้าเป็น Segment ของคอนโดมิเนียมนั้น  ราคาที่ขึ้นได้สูงที่สุดจะเป็นในเขตสัมพันธวง  ในส่วนที่เป็นทาวน์เฮ้าส์จะเป็น คลองเตย  และส่วนบ้านเดี่ยวจะเป็นเขตบางพลัด

ในขณะที่อุปทานเพิ่มมากที่สุดจะเป็น Segment ของคอนโดมิเนียมศซึ่งอยู่ในเขตวัฒนา  ถัดมาจะเป็นทาวเฮาส์ในเขตลาดพร้าว  แล้วถ้าบ้านเดี่ยวจะเป็นส่วนของประเวศ

“เทคโนโลยี” กับ วงการอสังหา

ข้อมูลที่เป็นดิจิทัลเหล่านี้จริงๆ แล้วมันไม่ได้มาดิสรับวงการอสังหาเลย  แต่ขณะเดียวกันตัวแทนหรือนักพัฒนาอสังหาก็ต้องมีการเตรียมความพร้อม  เพราะผู้บริโภคพร้อมที่จะรับข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว  เพราะเขามีการเล่นโซเชียล ดูเว็บไซต์อสังหา  และเรียนรู้เข้าสู่เทคโนโลยีต่างๆ  แต่ผู้ขายจะต้องเตรียมพร้อม

จากเดิมที่ขายอสังหาที่กระดาษ  หรือต้องไปดูกันที่โชว์รูมเท่านั้น  มันก็มีการเปลี่ยนแปลงในหลานรูปแบบโดยใช้ดิจิทัลมาช่วย เช่น การรีวิวต่างๆ การเข้าไปเดินดูในห้องตัวอย่างแทนที่จะเดินไปดูก็ใช้เทคโนโลยีอย่าง 3D virtual tour เพื่อให้ลูกค้าประหยัดเวลามากขึ้น

เรียกได้ว่าเรื่องราวของอสังหาริมทรัพย์ยังมีหลายส่วนที่น่าสนใจอีกมาก  แต่ต้องยอมรับเลยว่าเป็นวงการที่ยังมีโอกาสอีกมากสำหรับเหล่านักลงทุน  ทั้งการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ รวมไปถึงประเด็นที่อสังหาต่างๆ นั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ

ชมวิดีโอสัมภาษณ์ :