แม้ว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว ที่หลายธุรกิจประสบปัญหาปิดตัวหรือยอดขายซบเซาจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของครีเอเตอร์หน้าใหม่มากมาย ทั้งจากแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง TikTok Youtube Facebook Twitter ทั้งรูปแบบของศิลปินดาราชื่อดัง หรือสร้างคนใหม่ๆ ขึ้นมาเลย เห็นได้จากเพลงฮิตชื่อดังหลายเพลง ท่าเต้นยอดนิยม หรือแม้แต่คำพูดเด็ดที่เรียกกระแสโด่งดังแบบชั่วข้ามคืน

หนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจเกี่ยวกับวงการครีเอเตอร์คงหนีไม่พ้น iCreator Conference 2020 ท่ีกำลังจะกลับมาบอกให้เราทราบถึงเรื่องราวเกี่ยวกับวงการคอนเทนต์และครีเอเตอร์ทั้งหน้าเก่าและใหม่ที่ยังคงได้รับความสนใจมาก

ทีมงาน Thumbsup ได้พูดคุยกับ คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ เดอะซีโร่ พับลิชชิ่ง จำกัด เกี่ยวกับการจัดงาน iCreator Conference 2020 ที่จะกลับมาจัดอีกครั้งท่ามกลางกระแสโควิด-19 ที่หลายคนยังกังวลและความน่าสนใจของงานครั้งนี้

วงการคอนเทนต์ได้รับความสนใจ

คุณขจร ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมและภาพรวมคอนเทนต์ในปีนี้ว่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคอนเทนท์มีบทบาทมาก บนช่องทางออนไลน์ ทั้งภาคธุรกิจและสังคม รวมถึงแบรนด์ เอเจนซี่และสื่อต่างๆ ซึ่งทุกคนรู้ว่าคอนเทนต์มีความสำคัญและกลายเป็นอาชีพที่คนใฝ่ฝันอยากเป็น

ยกตัวอย่างเช่นอาชีพ Youtuber กลายเป็นอาชีพใหม่ที่เด็กไทยใฝ่ฝันอยากจะเป็นเช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกา แต่คนที่รู้จริงและเป็นตัวจริงในช่องทางออนไลน์กลับมีเพียงไม่กี่คน

นอกจากนี้ ผมอยู่ในวงการสื่อ วงการ Blogger มา 10 ปีแล้ว เราเจอจุดอ่อนของวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์เมืองไทยอยู่ 2-3 อย่าง อย่างแรกคือเราไม่ค่อยรวมตัวกัน สังเกตว่าอาชีพครีเอเตอร์เป็นอาชีพอิสระ ไม่มีการรวมตัวรวมกลุ่มใดๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือองค์ความรู้ต่างๆ ไม่ถูกแชร์ออกไป เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าการรวมตัวกันมันช่วยสร้างพลังบางอย่าง ช่วยผลักดันบางอย่างให้กับวงการได้

ในต่างประเทศ จะมีงานเกี่ยวกับคอนเทนต์และครีเอเตอร์ใหญ่ๆ อย่างเช่น Content World Expo จัด 4 วัน แบรนด์ใหญ่ๆ มาหมดเลย หรืออย่างที่ยุโรป Web Summit ที่เนเธอแลนด์ จัด 3 วันเลย แบรนด์ดังๆ ระดับโลกมาครบ สื่อต่างๆ หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ก็มากัน แต่เมืองไทยขาดงานประเภทนี้ 

การจัดงาน iContent Creator 2020 จึงน่าจะช่วยเติมเต็ม เป็นการช่วยจุดประเด็น จุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คน อย่างที่สองคือความรู้ที่มีอยู่ในแวดวงที่จำกัด ในขณะที่ฝั่งแบรนด์ ฝั่งเอเจนซี่ ก็อยากจะพัฒนาคอนเทนต์ของตัวเองให้ทัดเทียมกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สู้ทัดเทียมกับสื่อรุ่นใหม่ได้

“ผมเชื่อว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดอาชีพใหม่ๆ เปิดโอกาสให้แบรนด์เองได้สำรวจไอเดียใหม่ๆ สร้างทีมคอนเทนต์ของตัวเองหรือเอเจนซี่ก็พัฒนาวงการคอนเทนต์ได้ ในขณะที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ก็อยากเก่งขึ้นเรื่อยๆ ทำยังไงที่เราจะสามารถเก่งขึ้นไปในระดับเดียวกับระดับท้อปของประเทศได้” คุณขจร กล่าว

ทั้งนี้ ผมเชื่อว่าในยุคโควิด-19 คอนเทนต์ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น สังเกตในช่วงโควิด-19 ที่เกิดการล็อกดาวน์ สิ่งหนึ่งที่ไม่หายไปคือ สื่อออนไลน์ แถมยังมีจำนวนคนที่ใช้สื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นหลายเท่า เพราะฉะนั้นกลายเป็นว่าคอนเทนต์ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก

ผมเชื่อว่าถ้าทุกแบรนด์ ทุกคน หรือว่าเด็กรุ่นใหม่หลายคนที่อยากจะทำคอนเทนต์ดีๆ จะได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้ ได้พัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกระดับนึง เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในบ้านเราให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ธีม Legend and Next Gen

เมื่อปีที่แล้ว ทางบริษัทได้จัดงาน iCreator Conference ครั้งแรก มีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 1,500 คนและบัตรขายหมดเร็วมาก ซึ่งได้มีการพูดคุยกับคนที่มาร่วมงานหลายคนพบว่า เมื่อครั้งที่แล้วมีคนรุ่นใหม่สร้างแรงบันดาลใจให้อยากทำงานออนไลน์

แต่ยังมีกลุ่มคอนเทนต์ครีเอเตอร์ระดับตำนาน ที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์เนื้อหาและปรับตัวเข้าสู่ออนไลน์ได้อย่างน่าสนใจ และเป็นกลุ่มคนที่ปลุกกำลังใจให้หันมามอง คนเหล่านี้จะมีหลายอย่างมาเล่าให้ฟัง

ซึ่งน่าจะช่วยหลายแบรนด์ในเรื่องของการสร้างคอนเทนต์ให้เกิดการจดจำและต่อยอดสิ่งใหม่ๆ สิ่งสำคัญคือเรื่องความรู้และคอนเนคชั่น รวมถึงการที่เราจะคงคุณภาพให้ยาวนานเช่นเดียวกับนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ระดับตำนานที่ยังคงรักษาคุณภาพการทำคอนเทนต์ที่ยาวนาน

มั่นใจกับการจัดงานแบบ On Ground-Online

คุณขจร กล่าวว่า รูปแบบในปีนี้เป็นการผสมผสานทั้งรูปแบบ Online ที่รับชมจากทางบ้านได้ ผ่านอุปกรณ์ได้ทั้งหมด คอมพิวเตอร์ แท็บแลต โทรศัพท์มือถือ แต่ถ้าท่านอยากจะมาที่งานอีเว้นท์ อยากจะมาเจอผู้คน อยากจะมาพบปะกับ Speaker เราก็มีบัตรในรูปแบบ On Ground ให้ด้วย

ซึ่ง On Ground ยังคงมีการรักษาระยะห่างหรือ Social Distancing ก็คือจำกัดจำนวน โดยที่เราปรึกษากับสถานที่ที่จัดงานเกี่ยวกับมาตรการป้องกันต่างๆ ที่มั่นใจได้

“เชื่อว่าหลายท่านคงมีคำถามในใจว่าช่วงนี้จัดงานดีไหม เรามั่นใจในเรื่องของสถานที่จัดงานอย่างสามย่านมิตรทาวน์ เกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันต่างๆ แต่ถ้าใครยังมีความกังวลในเรื่องของการเดินทางมายังสถานที่จัดงานก็เลือกรับชมแบบออนไลน์ได้ ซึ่งครบถ้วนเรื่องเนื้อหาไม่ต่างกันครับ”

ความพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อบัตร On Ground สามารถเข้ามาพูดคุยกับ Speaker ที่พูดจบบนเวทีแล้วลงมา ท่านสามารถไปพูดคุยแบบ 1 ต่อ 1 ซึ่งเรามีระบบป้องกันความปลอดภัยระหว่างคุยให้พร้อม รวมทั้งของที่ระลึกพิเศษสำหรับคนที่มางานโดยเฉพาะ ราคาบัตร On Ground 3 วัน 3,500 บาท หากซื้อ 5 ใบขึ้นไป มีราคาพิเศษด้วย

ส่วนท่านที่ไม่สะดวกจะเดินทางมา ก็สามารถเลือกบัตรแบบ Online ก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่ต่างกัน เผลอๆ ยังสามารถชมไปด้วย อยู่บ้าน ทานกาแฟ ทานขนม หรือว่าจะชมจากอุปกรณ์อื่นๆ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บแลต ก็เพิ่มความสะดวกให้กับท่านผู้ชมด้วย ซึ่งราคาบัตรก็ย่อมเยา 3 วันเพียง 2,500 บาท

สำหรับคนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ icreatorconference

ทั้งหมดนี้ ผมเชื่อมั่นว่างานปีนี้ น่าจะเป็นหมุดหมายที่ดี สำหรับวงการครีเอเตอร์ไทย งานครีเอทีฟของคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ยิ่งเราเกิดภาวะโควิด-19 แบบนี้เรายิ่งต้องสร้างองค์ความรู้ของเราให้เต็มที่ พร้อมที่วันหนึ่งพอประเทศเปิดหรือโควิดหายไป เราจะกลับมาพร้อมกับคอนเทนต์ที่ดี คอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ แล้วก็วงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทยที่ยกระดับไปอีกขั้นหนึ่งครับ