บทความสัมภาษณ์ตามที่ได้สัญญากันเอาไว้ว่า เราจะพูดคุยกับผู้ที่ชนะเลิศการแข่ง Pitching ในงาน Echelon 2013 ที่จัดโดย e27 โดยทีมนี้ถือว่าเป็นม้ามืดในสายตาของกลุ่มคนไทยที่เดินทางไปร่วมงานกัน และในช่วงที่มีการ Pitching ก็สามารถทำได้ดีมาก ทีมที่เราจะมาคุยด้วยก็คือผู้พัฒนาแอพพลิเคชันช่วยแปลภาษาแบบเรียลไทม์ที่ชื่อ WayGo
ก่อนที่จะเข้าบทสัมภาษณ์ ผมได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WayGo ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ก็พบว่า WayGo ได้เคยไปเข้าร่วม Accelerator program กับทาง 500 Startups และได้ขึ้นไปนำเสนอผลงานในงาน Demo Day อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักที่ทำแอพพลิเคชันที่น่าสนใจได้ถึงขนาดนี้
thumbsup: ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับคุณและ WayGo รางวัลชนะเลิศการ Pitching ในงาน Echelon 2013 อีกครั้งนะครับ อยากให้ช่วยแนะนำตัวและแนะนำให้ชาว thumbsup’er รู้จักหน่อยครับว่า WayGo คืออะไร?
James: WayGo คือแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่ใช้ในการแปลคำศัพท์แบบมองเห็นได้ทันที จุดประสงค์ในการสร้าง WayGo ก็คือการทลายกำแพงการสื่อสารของนักท่องเที่ยวให้ดีขึ้น เราหวังไว้ว่าเราจะสามารถช่วยสร้างประสบการณ์กับวัฒนธรรมในแต่ละประเทศด้วยการเข้าไปกินอาหารในร้านที่ไม่มีเมนูรายการอาหารภาษาอังกฤษ รวมทั้งสามารถหาสถานที่ต่างๆ จากป้ายที่มีเพียงตัวอักษรภาษาของประเทศนั้นๆ โดยเป้าหมายของเราในตอนนี้คือการทำการแปลจากภาษาญี่ปุ่นให้เป็นภาษาอังกฤษ และ ภาษาเกาหลีเป็นภาษาอังกฤษ โดยเราจะทำภายในปีนี้ และในอนาคตอาจจะมีการแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษด้วยก็เป็นได้หากมีเสียงเรียกร้องจากคนใช้งานมามากพอ
นอกจากนั้นเรายังต้องการขยายตลาดไปยังภาษาทางแถบยุโรปอีกด้วย รวมทั้งการจับคู่ภาษาที่มีความต้องการใช้งานสูง เช่น แปลจากภาษาจีนเป็นภาษาญี่ปุ่น, ภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีนเป็นต้น
สำหรับเรื่องราวที่มาของ WayGo นั้นเกิดจาก Ryan Rogowski – CEO ของ WayGo เคยเดินทางไปศึกษาที่ประเทศจีนและพบปัญหาอย่างมากในการสั่งอาหาร เพราะเมนูทั้งหมดเป็นภาษาจีนล้วนเลยเขาอ่านเมนูไม่รู้เรื่อง เขาจึงคิดว่าหากว่ามันสามารถช่วยเหลือเขาได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนน่าจะทำให้สิ่งที่เขาเจออยู่ง่ายขึ้นกว่าเดิม
จุดเด่นของ WayGo คือการแปลข้อคำที่ต้องการแบบทันที (Real-time) ด้วยใช้ระบบจดจำตัวอักษร (OCR: Optical Character Recognition) และการแปลทุกอย่างไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตเพราะทำภายในแอพพลิเคชันเลย ซึ่งก็ถือว่าอำนวยความสะดวกมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เปิดสัญญาณโทรศัพท์เพื่อต่ออินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ
thumbsup: ก่อนที่จะทำ WayGo ขึ้นมา คุณเคยทำอะไรอย่างอื่นมาก่อนไหมครับ?
James: WayGo เป็นแอพพลิเคชันและผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของบริษัท แต่ทีมของเรานั้นมีประสบการณ์ในด้านการพัฒนาแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์อื่นๆ มาอย่างโชกโชน
thumbsup: รูปแบบของการใช้งานของ WayGo เป็นอย่างไร และมีแผนธุรกิจอย่างไรบ้างสำหรับ WayGo?
James: ทุกคนสามารถเข้าไปดาวน์โหลด WayGo มาใช้งานได้ฟรีๆ โดยสามารถทดลองใช้งานแปลได้ 100 ครั้ง หากอยากใช้ต่อก็ต้องเสียเงินในส่วนของ in-app purchase ที่มีอยู่ภายในแอพพลิเคชัน ตอนนี้ลดราคาอยู่ที่ 4.99 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 150 บาท)
ช่วงนี้เรากำลังหาคู่ค้าและพันธมิตรที่จะเข้ามาช่วยผลักดันให้ WayGo ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และกำลังพิจารณาในการทำ B2B กับคู่ค้าในการขายซอฟท์แวร์นี้ให้กับธุรกิจอื่นๆ ด้วย
thumbsup: นอกจากการแปลภาษาแล้ว เราจะได้เห็น feature อะไรใหม่ๆ บ้างใน WayGo ครับ?
James: ใน version ถัดๆ ไป เราจะปรับปรุงในเรื่องหน้าจอการใช้งาน, ปรับปรุงหน้าจอตอนเข้าใช้งาน, ปรับปรุงการแปลข้อความรวมทั้งเพิ่มคำศัพท์ลงใน Dictionary ในแอพด้วย
และอีกประมาณ 2 เดือนหน้า (สิงหาคม 2556) เราจะออก WayGo สำหรับการแปลภาษาญี่ปุ่นออกมาให้ได้งานกันด้วย
thumbsup: ตอนนี้แอพพลิเคชันของคุณ มียอดการใช้งานเป็นอย่างไรบ้างแล้วครับ?
James: ตอนนี้เรามีคนดาวน์โหลดไปใช้งานประมาณ 40,000 แล้ว โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มในแต่ละเดือน 20% และมีผู้ใช้งานประจำใช้ประมาณ 80 ครั้งต่อสัปดาห์
thumbsup: ในความเห็นของคุณ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับ startup ecosystem ในแถบเอเชียในปัจจุบันรวมทั้งไต้หวันด้วย?
James: ไต้หวันเป็นประเทศที่เหมาะอย่างมากในการหานักพัฒนา ส่วนเอเชียโดยทั่วๆ ไปแล้วมีการเจริญเติบโตและมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก รวมทั้งหลายผลิตภัณฑ์ถูกพัฒนามาจากเอเชียทั้งนั้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากๆ ในเวลานี้
thumbsup: สุดท้ายครับ อยากจะฝากอะไรให้กับคนที่อ่านบทสัมภาษณ์นี้บ้าง?
James: เราเจอ startup ไทยที่เจ๋งๆ หลายทีม ไม่ว่าจะเป็น Builk ทีมที่ชนะการ Pitching เมื่องาน Echelon 2012 และในปีนี้ก็คือ Stamp
ส่วนตัวผมเองนั้นยังไม่ค่อยที่จะคุ้นเคยกับ startup ไทยเท่าที่ควร แต่ผมรู้ถึงตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดในไทยว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มากๆ ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศเอง, ตลาดต่างประเทศ และตลาดเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะลดอัตราการว่างงานและช่วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มั่นคงได้
สิ่งที่อยากจะฝากบอกถึง Startup ไทยคือ ขยันลงมือพัฒนาสิ่งที่ตัวเองทำ และผมหวังว่าจะได้เจอกับ Startup จากเมืองไทยในงาน Echelon 2014 มากกว่าเดิม!
ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน WayGo ได้ทาง App Store ครับ ส่วนฝั่งแอนดรอยด์สามารถติดตามข่าวและลงชื่อเพื่อเข้าใช้งานในเวอร์ชัน beta ได้ที่เว็บ waygoapp.com ครับ
ปิดท้ายด้วยคลิปแนะนำแอพพลิเคชัน WayGo ที่สื่อสารออกมาได้อย่างตรงไปตรงมาครับ