เมื่อเดือนก่อนผมมีโอกาสพูดคุยกับ Martin Toft Sorensen หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท WearYouWant.com Online Shopping Mall ที่ออกตัวล้อฟรีว่าพวกเขาคือ “Online Shopping Mall ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” ซึ่งมีสินค้าจากหลากหลายแบรนด์ดังทั้งในไทยและต่างประเทศของทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น ชุดเดรส รองเท้า เครื่องประดับ แว่นตา ยีนส์ เสื้อยืด นาฬิกา พร้อมกับเล่าที่มาที่ไปของธุรกิจ startup แห่งนี้ให้กองบรรณาธิการ thumbsup ฟัง
Martin เล่าให้เราฟังว่าตัวเขาเป็นชาวเดนมาร์กมาอยู่เมืองไทยได้ราวปีกว่าๆ วันหนึ่งมาเจอกับผู้ร่วมก่อตั้งชาวเยอรมันอีกคนชื่อ Julien Chalt? ซึ่งอยู่เมืองไทยมานานแล้ว คุยกันไปคุยกันมาถูกคอ คิดว่าอยากจะสร้างธุรกิจด้วยกันสักอย่างในประเทศไทย ก็เลยนึกถึง Miinto.dk Online Shopping Mall ที่โด่งดังแห่งหนึ่งในทวีปยุโรปตอนเหนือ รูปแบบธุรกิจของ Miinto ก็คือ ทางบริษัทจะทำตัวเป็นหน้าร้านออนไลน์ หรือ marketplace ให้กับร้านขายปลีกต่างๆ ที่ไม่ถนัดขายออนไลน์ ซึ่งรูปแบบธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จในยุโรปค่อนข้างดี Martin กับ Julien เลยเอาโมเดลนี้มาต่อยอดเป็น WearYouWant.com เริ่มต้นที่ประเทศไทยก่อน
พอทราบถึงโมเดล ผมก็ตั้งคำถามกับ Martin ว่าดูทั่วๆ ไปโมเดลนี้ก็ไม่เห็นจะมีอะไรใหม่เลย คนรับทำหน้าร้านออนไลน์มีอยู่ทั่วไป Martin ก็ยอมรับกับเราตรงๆ ว่ารูปแบบธุรกิจของเขาไม่ได้ใหม่ มันเป็น B2B2C ทั่วไป แต่ถ้าหากวิเคราะห์ลึกๆ มันเป็นรูปแบบธุรกิจที่น่าจะเวิร์คในเมืองไทยและเอเชีย เพราะเป็นย่านที่อีคอมเมิร์ซกำลังเติบโตมากแห่งหนึ่งในโลก นอกจากนี้ WearYouWant ยังบอกว่าตัวเองแตกต่างจาก Zalora, TARAD, WeLoveShopping ตรงที่ WearYouWant นั้นเน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ โดยขายแต่สินค้าแฟชั่นอย่างเดียว และทำการตลาดด้วยส่วนลดมากนัก
ดังนั้นในมุมของลูกค้า WearYouWant จึงเป็น Online Shopping Mall ที่แฟนๆ ชาวไทยไว้ใจได้เพราะทางบริษัทเน้นเรื่องแฟชั่นให้ดีเพียงอย่างเดียว สินค้าจะเป็นสินค้าแฟชั่นแบบพรีเมี่ยม และเป็นของแท้คุณภาพดี ส่วนในมุมของเจ้าของสินค้า WearYouWant จะเก็บเงินเริ่มต้น (startup fee) ที่ไม่แพง แต่จะขอแบ่งกำไรกับเจ้าของสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นเช่น ถ่ายภาพสินค้า (คิดว่าหลายคนคงเคยเห็นดาราที่มาถ่ายแบบให้กับแบรนด์นี้หลายต่อหลายคน อาทิ คริส หอวัง, บอย ปกรณ์, เจ มณฑล ฯลฯ) ระบบจัดการสินค้าออนไลน์ ระบบดูแลลูกค้า และ payment system
ผมถาม Martin ต่อไปถึงอนาคตของ WearYouWant ว่ามองอีก 2-3 ปีข้างหน้าอย่างไร เขาบอกว่าตอนนี้ธุรกิจเพิ่งเริ่มได้ไม่นาน จะขอเวลาอีกราว 6 เดือนถึง 1 ปี ในการคืนทุน จากนั้นจึงจะขยายออกระดับภูมิภาค โดยมองว่าตลาดที่น่าสนใจต่อไปก็คือมาเลเซีย แต่ถึงอย่างไรก็ตามข่าวดีของทีมงานก็คือตอนนี้พวกเขาได้รับเงินลงทุนจาก VC เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง 2 รายแรกก็คือ Digital Media Partner (DMP) และ Asia Venture Group จึงเป็นที่รับรองได้ว่าธุรกิจนี้จะเติบโตได้ในระดับภูมิภาคไม่ยากเลย
สิ่งที่ท้าทายที่สุดตอนนี้คือต้องทำให้ธุรกิจเป็นไปได้ด้วยดีแบบไม่สะดุด เพราะธุรกิจนี้ถ้าว่ากันตรงๆ แล้วขึ้นอยู่กับพาร์ทเนอร์ และร้านค้าต่างๆ โดย Martin ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะควบคุมบริการให้ลูกค้าแฮปปี้ตลอดเวลาได้ เพราะไหนจะมีเรื่องการเก็บสต๊อกสินค้าออนไลน์ และการขาดสต๊อก การทำงานร่วมกับ distributor ของ merchant ต่างๆ ด้วย
ท้ายสุดคงต้องติดตามกันต่อไปว่า WearYouWant จะสามารถเติบโตได้อย่างที่ตั้งใจไว้หรือเปล่า ใครอยากรู้ก็ต้องลองให้กำลังใจด้วยการไปช้อปกันดูเลยที่ WearYouWant.com
เกี่ยวกับบริษัท: WearYouWant เป็นบริษัท startup ที่ขณะนี้มีทีมงานทั้งหมด 15 คน ทั้งฝ่าย customer care, ฝ่ายจัดส่ง ฝ่ายการตลาด และมีสินค้าจากหลากหลายแบรนด์ทั้งระดับนานาชาติ เช่น Nike, Livi’s, Converse รวมถึงแบรนด์ไทยอย่าง Patinya รวมทั้งหมดจากร้านค้ากว่า 800 ร้าน และมีสินค้าวางจำหน่ายทั้งหมดราว 23,000 ชิ้น โดยวางแผนว่าปลาย 2556 น่าจะถึง 1,000 ราย ซึ่งมีสินค้ากว่า 40,000 ชิ้นจำหน่ายให้กับคนไทย