ในยุคที่คนไทยนิยมดูวีดีโอมากขึ้น หลายแบรนด์ก็ต้องการที่จะมองหาเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการสื่อสารและส่งต่อคอนเทนต์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดีขึ้นกว่าเดิม
Taboola คือใคร
ทาบูล่า (Taboola) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแสดงผลคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดและเข้าถึงมากกว่าครึ่งของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก เชื่อมโยงผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตกว่า 1,400 ล้านคนต่อเดือนผ่านคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) เพื่อเข้าใจผู้บริโภคได้ดีขึ้นว่าพวกเขาพร้อมที่จะเปิดรับและมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์จากแบรนด์เมื่อใด
โดยเฉลี่ยผู้คนจะเห็นข้อความจากแบรนด์ต่างๆ วันละ 10,000 ข้อความ ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่มหาศาล โลกเราทุกวันนี้มีทางเลือกต่างๆ เนื้อหาต่างๆ จากแบรนด์ต่างๆ มากเกินไป ทำให้มีประสบการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย จนทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนและไม่พอใจ โดยเฉพาะผู้บริโภคที่กลัวว่าตนจะพลาดข้อมูลบางอย่างเมื่อต้องตัดสินใจเลือก
ดังนั้น นักการตลาดยุคใหม่ใช้ประโยชน์สูงสุดจาก 3 เสาหลักของการทำการตลาดดิจิทัล โดยทั้ง 3 เสาที่ว่านี้คือ Search (การค้นหาผ่านเสิร์ช เอ็นจิ้น) Social (โซเชียลมีเดีย) และ Discovery (การค้นพบ) ซึ่งนักการตลาดส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการทำการตลาดผ่าน Search และ Social กันดีอยู่แล้ว แต่มักไม่คุ้นเคยกับเสาที่ 3 ของกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล ซึ่งก็คือ Discovery (การค้นพบ)
Discovery (การค้นพบ) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Native Advertising เป็นหนึ่งในหนทางที่มีประสิทธิผลสูงสุดในการสร้างการรับรู้ให้แก่แบรนด์และช่วยให้แบรนด์เอาชนะใจลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยตั้งเป้าให้ ไทยเป็นตลาดหลัก และคาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตถึง 50-60 %
เนื่องจาก Native Ad. หรือ รูปแบบโฆษณาที่ใช้เนื้อหาลักษณะเดียวกับเนื้อหาปกติในเว็บไซต์นั้นๆ อย่างกลมกลืน และมีข้อได้เปรียบด้านความน่าเชื่อถือจากเว็บสำนักข่าวซึ่งเป็นแหล่งที่มาของเนื้อหา ทำให้โฆษณาลักษณะนี้เข้าถึงผู้คนผ่านแพลตฟอร์มที่พวกเขาอ่านและมีส่วนร่วมอยู่แล้ว
นายรัน บัค รองประธานอาวุโสของ ทาบูล่า( Taboola) เปิดเผยว่า ปัจจุบันทาบูล่า เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม แสดงผลคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุด เชื่อมโยงผู้คน 1.4 พันล้านรายในแต่ละเดือน ถือเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรอินเตอร์เทอร์เน็ตทั่วโลก ผ่านคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เคลื่อนที่ ด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Leaming) เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยได้รับการแนะนำ 5 แสนครั้งต่อเดือน เนื้อหาได้รับการคลิก 1,500 ล้านครั้งต่อเดือนและมีมากกว่า 34 ภาษา โดยเป็นการเข้าใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ทั่วโลกร้อยละ 43.6
สำหรับในส่วนของประเทศไทย ทาบูล่า ก็สามารถเข้าถึงคนไทยที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ถึง 95% และมีพันธมิตรที่เป็นสื่อชั้นนำระดับประเทศรายใหญ่ของไทยเกว่า 1,000 หลาย และมีกลุ่มลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจหลากหลาย ทั้งส่วนของ เครื่องสำอาง อสังหาริมทรัพย์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
โดยปัจจุบันการนำเสนอคอนเทนต์วิดีโอรวมถึง News Feed บนโซเซียลมีเดียเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมในไทย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วคนจะเห็นข้อความจากแบรนด์ต่างๆ วันละ 1 หมื่นข้อความ ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Google Twitter และ LINE ทำให้ให้เกิดข้อมูลมหาศาล จึงทำให้เกิดทางเลือกมากมาย นักการตลาดจึงควรจะใช้เครื่องมือให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา
ทางด้านการลงทุนของ Taboola ในเทคโนโลยีปัญญาประเดิษฐ์และการเรียนรู้เชิงลึก มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเข้าถึงผู้บริโภคในช่วงเวลาที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและการนำพาผู้บริโภคให้ก้าวไปสู่ขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการตัดสินใจซื้อให้แก่แบรนด์ทั้งหลาย
นอกจากนี้ Taboola ยังต่อยอดด้วยการนำเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาคัดสรรเนื้อหาที่คาดว่าผู้บริโภคแต่ละคนมีแนวโน้มที่จะสนใจรับสารต่อจากเนื้อหาที่กำลังอ่านอยู่ด้วย
การทำตลาดดิจิทัลส่วนใหญ่จะใช้การค้นหาผ่าน Search Engine, Social และ Discovery แต่นักการตลาดส่วนใหญ่จะยังไม่คุ้นเคยกับ Discovery ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างการรับรู้และสร้างแบรนด์
ปัจจุบันโฆษณาที่นักการตลาดไม่ควรทำ คือ Display และ Banner เพราะจากสถิติที่ Taboola วิเคราะห์พบว่าคนส่วนใหญ่จะมองข้าม ไม่สนใจ ส่วน Billboard ก็อาจเป็นเครื่องมือที่วัดผลได้ยาก
โดยในแต่ละวันผู้คนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูราว 100 ครั้ง นับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักโฆษณาที่จะสื่อสารกับลูกค้าได้สะดวกขึ้น
นอกจากนี้ Taboola ยังทำงานร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือในการส่งตรงบริการ Taboola News ให้เข้าถึงอุปกรณ์ของผู้บริโภคและแอปพลิเคชันข่าวในกว่า 50 ตลาดทั่วโลก โดยลูกค้าที่เคยร่วมมือกับ Taboola อย่าง Nespress และ Sony Picture Entertainment ยังมีการเติบโตด้านการมีส่วนร่วมของผู้ชมด้วย
“เพราะประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักที่สำคัญของ Taboola โดยบริษัทวางเป้าหมายว่าจะทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงและดูได้ทุกอุปกรณ์ และเพิ่มการทำงานรวมกับพาร์เนอร์ที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึง SME คาดว่าจะเติบโต 50-60% เมื่อเทียบกับปีก่อน”
นอกจากนี้ เพื่อให้พาร์ทเนอร์มั่นใจในความตั้งใจจริงของการทำตลาด Taboola จึงเลือกกรุงเทพฯ เป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ปี 2556
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมเม็ดเงินในสื่อโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทยยังมีตัวเลขที่น้อยอยู่ เมื่อเทียบกับสื่ออื่นๆ และเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม แต่เชื่อว่าในอนาคตหากการเข้าถึงสื่ออนไลน์ เพิ่มมากขึ้น พฤิกรรมของคนใช้สื่ออนไลน์มากยิ่งขึ้นก็เชื่อว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามามากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน