ในสองสามปีหลังมานี้ Google Android OS นั้น ได้ไล่หลังตาม Apple iOS ในเรื่องของแอพพลิเคชันมาตลอด ทั้งในเรื่องของจำนวน และคุณภาพของแอพฯ ที่หลายคนยังมองว่า Apple iOS ยังวิ่งนำหน้าระบบปฏิบัติการจากเสิร์ชเอ็นจิ้นชื่อดังอยู่พอสมควร แต่ล่าสุดด้วยจำนวนของแอพฯ ที่ไล่หลังมาจนใกล้จะทันกัน กลับมีผลวิจัยที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะทำคิ้วชนกัน เมื่อมีรายงานว่าแอพฯ ของ Apple iOS บน iPhone นั้นเกิดอาการค้าง หรือที่เราเรียกกันว่า Crash อยู่บ่อยครั้ง และที่สำคัญดันมากกว่า Android เสียด้วยสิ…
โดยบริษัท?Crittercism ซึ่งปกติก็คอยมอนิเตอร์บรรดาแอพฯ ต่างๆ พบว่าตัวเลขของการใช้งานแอพฯ แล้วค้าง หรือที่เรียกว่า Crash นั้น พบได้บนเครื่อง iPhone โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ iOS เวอร์ชัน 5.0.1 ซึ่งมีมากครั้ง ถึงร้อยละ 28.64 ของการเกิดอาการ Crash ทั้งหมดเลยทีเดียว
โดยสื่อใหญ่อย่าง Forbes ได้กล่าวถึงสาเหตุ ว่านี่เกิดจากปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะกับอุปกรณ์รับสัญญาณ GPS หรือกล้องถ่ายรูป รวมถึงระบบการเชื่อมต่ออย่าง 3G หรือ Wi-Fi ด้วย ซึ่งอาการ Crash ยังมีสาเหตุมาจากเรื่องของแอพฯ ที่ใช้หน่วยความจำมาก จนเกิดอาการดังกล่าว?นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง iAds ช่องทางการโฆษณาจากทาง Apple เป็นไปได้ว่าอาจจะมีส่วนในปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย
เมื่อมาดูภาพรวมของเวอร์ชันและระบบปฏิบัติการที่พบปัญหาการ Crash ของแอพฯ พบว่าเฉพาะ iOS บางเวอร์ชัน ที่มีสถิติการ Crash บ่อยๆ 4-5 อันดับแรก ก็มีจำนวนเกินครึ่งคือกว่าร้อยละ 65 เข้าไปแล้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับ Android ที่หลายคนคิดว่ามันน่าจะมีปัญหามากกว่า กลับมีรวมกันทุกๆ เวอร์ชันเพียงแค่ประมาณร้อยละ 10 เท่านั้น
เราเรียนรู้อะไรจากข่าวนี้:?หากจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เมื่อจำนวนการใช้งานแอพฯ บน iOS ก็น่าจะผันแปรไปตามจำนวนแอพฯ ที่มีอยู่บน App Store กล่าวคือ การที่ผลสำรวจพบว่า iOS มีการเกิดอาการ Crash มากกว่า ส่วนหนึ่งก็เพราะคนที่ใช้งาน iOS นั้นอาจจะเป็นกลุ่มตัวอย่างที่มากกว่าเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม Android เริ่มพบว่ามีการเติบโตทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ การปรับเปลี่ยนและพัฒนาแอพฯ บน Android เองก็สามารถที่จะตอบโจทย์นักพัฒนาอิสระที่ต้องการจะปรับแต่งอะไรได้ตามต้องการ โดยมิต้องขออนุญาตจากทาง Apple ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟน ในเชิงของเจ้าของแพลตฟอร์มก็เป็นไปได้…
ที่มา: Mashable