การเก็บข้อมูลใช้จ่ายของผู้ใช้งาน iPhone ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น มาจากบริษัท Sensor Tower ที่ระบุว่ามีการใช้จ่ายภายในแอปเพิ่ม 23% ในปี 2017 ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าปีที่ผ่านมา
Game, Dating App และ Streaming มีส่วนทำให้ผู้ใช้งาน iPhone ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยผู้ใช้ iPhone ในสหรัฐอเมริกา มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ 58 เหรียญสหรัฐ/ผู้ใช้งานที่จ่ายในแอพหรือประมาณ 1,811 บาท จากเดิมที่จ่าย 47 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,467 บาทในปี 2016
สำหรับการใช้จ่ายที่ประมาณการนั้น จะเป็นการซื้อแบบสมัครสมาชิกและใช้จ่ายภายในแอป แต่ไม่ได้เกี่ยวกับการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ซื้อผ่าน Zamazon หรือชำระเพื่อการโดยสารรถอย่าง Uber หรือ Lyft
กลุ่ม Game ถือว่าเป็นหมวดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุดในปี 2560 คิดเป็น 36 เหรียญ ใน 58 เหรียญ/อุปกรณ์ หรือ 62% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพิ่มข้ึน 13% เมื่อเทียบกับการใช้จ่าย 32 เหรียญของปี 2016
ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่กลุ่มนี้จะโตที่สุด เมื่อเทียบกับบริการอื่นๆ ซึ่งการซื้อสินค้าภายในแอปนั้น เสมือนเป็นการใช้จ่ายผ่านสกุลเงินภายในเกมที่หลายคนคุ้นเคยกันมานาน เช่น MMORPG ที่ผู้เล่นคุ้นเคยกับการใช้จ่ายรูปแบบนี้ดีอยู่แล้ว
แม้ว่าการใช้จ่ายในเกมจะเพิ่มขึ้นไม่กี่ดอลล่าร์ในแต่ละปี แต่สิ่งที่น่าสนใจคือแอปประเภทไลฟ์สไตล์ และสตรีมมิ่งแบบที่ต้องสมัครสมาชิกนั้น เช่น Netflix, Hulu, HBO, NOW เติบโตขึ้น 57% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ที่ดึงเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคเฉลี่ยอยู่ที่ 4.4 เหรียญ/ 1 อุปกรณ์ ทำให้กลายมาเป็นการใช้จ่ายนอกหมวดเกมที่น่าสนใจ
เรื่องของเพลงก็เป็นอีกหนึ่งประเภทสำหรับการใช้จ่าย ที่เพิ่มขึ้น 8% ต่อปี หรือ 4.10 เหรียญ โดยสิ่งที่ใช้จ่ายในแอปเพลงคือการสมัครสมาชิกเพื่อรับบริการระดับพรีเมียมของ Pandora หรือ Spotify เมื่อรวมกับบริการสตรีมมิ่งจะพบว่าผู้ใช้ iPhone มีการจ่ายโดยรวมมากข้ึน
แต่การสมัครบริการประเภทอื่นๆ ก็โตขึ้นเช่นกัน อย่างเช่น แอปจับคู่อย่าง Tinder หรือ Bumble ที่โตขึ้น 110% จากปี 2016-2017 มีการใช้จ่าย 2.10 เหรียญ/คน /อุปกรณ์ ส่วนการใช้จ่ายบนโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้น 38% หรือ 3.60 ดอลล่าร์สหรัฐด้วยการใช้ทิปภายในแอพ เช่น Live.me, Periscope, YouTube Gaming และการสมัครรับข้อมูลบน LinkedIn และเครดิตในการโทรบน Skype
แต่ Twitch กลับถูกนำไปจัดหมวดหมู่ในกลุ่ม “รูปภาพและวีดีโอ” ทั้งที่ควรจะอยู่ในหมวดอื่นที่เหมาะสมกว่านี้
ทางด้านรายงานของ Sensor Tower ยังเน้นไปที่การใช้จ่ายของผู้ใช้งาน iPhone แต่ก็มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับ Android ด้วยว่า Google Play ใช้จ่ายน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
Randy Nelson กล่าวว่า “เราคาดการณ์ว่าอุปกรณ์ Android ที่ใช้งานในสหรัฐน่าจะมีการใช้จ่ายประมาณ 38 เหรียญบน Google Play และภายในแอพอื่นๆ ประมาณ 20 เหรียญ
ผู้ใช้งานแอนดรอยด์ใช้เงินภายในแอปและใน Google Play น้อยลง ทำรายได้รวมประมาณ 60% ของรายได้จาก App Store เมื่อปีที่แล้ว คาดว่าจะมาจากการที่ผู้ใช้งานแอนดรอยด์มี Official Store ที่มากกว่า 1 แห่ง เช่น Amazon Appstore หรือ Samsung Store ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ไม่ได้รับอนุญาตบน App Store ของ Apple
ทั้งนี้การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเป็นเพียงการคาดการณ์ หลังจากที่มีการติดตั้งแอปบน iPhone เพิ่มขึ้นเกือบ 10% ช่วง 2016-2017 เฉลี่ยการติดตั้งแอพจะอยู่ที่ 4 แอป แน่นอนว่าเกมยังคงเป็นกลุ่มที่มีการติดตั้งมากที่สุด ตามมาด้วย Photo&Video, Etertainment, Social Network และ Utilities
ที่มา: Techcrunch