มองย้อนอดีตกลับไปราว 15-20 ปีก่อน หนึ่งในสิ่งประดิษฐ์สำคัญบนโลกไซเบอร์เห็นจะหนีไม่พ้น Bulletin Board, Forum หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “Webboard” ซึ่งหลายต่อหลายคนคงเริ่มเห็นว่าท่ามกลางกระแส Social ที่มาแรง จนเดี๋ยวนี้ใครอยากมีพื้นที่ชุมชนออนไลน์แบบย่อมๆ ของตัวเองก็ทำ Facebook Group ได้แล้ว คำถามที่หลายคนคงสงสัยในนาทีนี้ ก็คือ Webboard ยังคงเป็นสิ่งที่น่าทำอยู่หรือไม่? เรามาลองดูความคิดเห็นของคนทำงานดิจิทัลกันบ้างครับ ว่าพวกเขามองกันอย่างไร
หนึ่งในคนแรกๆ ที่เราเชื้อเชิญมาพูดคุยก็คือ “อภิศิลป์ ตรุงกานนท์” แห่ง Pantip เผยมุมมองในเรื่องนี้ว่า Webboard ยังคงอยู่แน่นอน แต่อยู่ในรูปแบบ Q&A ที่มีคุณภาพ
“ผมมองว่า UGC (User Generated Content) มีหลายประเภทครับ ถ้าเราคิดที่จะ “คุยเล่น” กัน ผมเห็นด้วยว่า Facebook Group ตอบโจทย์แน่นอน แต่ถ้ามองถึง Q&A หรือถามตอบกันแบบจริงจัง ทำใน Webboard จะได้อารมณ์มากกว่า เพราะ Facebook มันจะจำกัดเฉพาะในเพื่อนเรากลุ่มเล็กๆ แต่ถ้าเราเอาคำถามเดียวกันไปถามในเว็บบอร์ด Pantip ห้องรัชดาที่มีคนมากมาย คุณก็จะได้คำตอบที่มีมิติ ทั้งเฉพาะทาง และมีความหลากหลายจากคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่แตกต่างกัน”
แต่ Facebook ก็ตั้งกลุ่มแยกย่อยได้ง่าย การถามเฉพาะทางก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยาก? อภิศิลป์บอกต่อไปว่า ยอมรับความจริงที่ว่า Facebook Group มี Group ต่างๆ เฉพาะทาง แต่ก็ไม่ได้ Public มากเท่าไหร่ มันต้องมี approve และ Group มีความเป็น private มากกว่า แต่ไม่ใช่ทุกคนสามารถเห็นได้ ในขณะที่ Webboard จะ public มากกว่า
“ผมขอยกตัวอย่าง Webboard ญี่ปุ่น 2Channel ที่ดังมากๆ และมีความคล้าย Pantip ตรงที่คนอ่านจะติดที่ตัวสมาชิกใน Community ไม่ได้ติดที่ Platform สมาชิกที่อยู่ในแต่ละ community จะมีเอกลักษณ์ แต่ Facebook ไม่มีแบบนี้ นอกจากนี้ ผลลัพธ์การค้นหาใน Webboard ยังติด Google Search Result ด้วย ถ้าเราต้องการความรู้ เราก็อยากจะไปอ่านใน Blog หรือ Webboard มากกว่า Facebook”
ด้าน พลวัฑ กีรติมโนชญ์ Web Admin แห่ง Droidsans แชร์กับเราอย่างตรงไปตรงมาว่า “Webboard กำลังจะตาย” แต่ถึงกระนั้นแม้ว่ามันกำลังจะตาย มันก็จะเจอจุดสมดุลย์ที่ทำให้มันอยู่รอดได้ในที่สุด โดยพลวัฑเผยว่า
“Webboard ก่อนหน้านี้เกิดมาเยอะเกินไป เยอะแบบไร้คอนเซ็ปต์ คนทำเว็บทำเพราะหวังว่าจะมีคนเข้ามาช่วยกันแบ่งปัน ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็มีกันจนเกร่อและล้นตลาด สถานการณ์ตอนนี้จึงเป็นเหมือนการคัดสรรบอร์ดเจ๋งๆ สังคมคุณภาพจริงๆ กลั่นให้เหลือแต่บอร์ดที่รู้ว่าตัวเองทำอะไร และต้องการอะไร
“เว็บบอร์ดวันนี้ถ้ายังไม่ได้มี traction ระดับเดียวกับบอร์ดใหญ่ๆ อย่าง pantip การที่คนจะคอยเข้าไปคอยสร้างคอนเมนต์แลกเปลี่ยนกันมันแทบจะไม่เหลือแล้ว หากแต่เราทำแบบสักแต่ทำ คนที่เป็นเจ้าของบอร์ดยังไม่ค่อยจะเข้าไปดูแล สุดท้ายบอร์ดก็ไม่ได้มีค่าอะไร”
สรุปคือ Webboard ยังไม่ตาย แต่เกิดได้ยากแล้วในยุคนี้?
“คำว่ากำลังจะตายในความหมายของผมในตอนแรกคือเหล่าบอร์ดที่สร้างขึ้นมาเพื่อหวังว่าคนจะมารวมกลุ่มสร้างเนื้อหาให้แบบฟรีๆ เหมือนแต่ก่อน ตอนนี้ใครมีความสามารถ สุดท้ายออกไปเปิด Facebook Group เป็นเจ้าของพื้นที่ของตัวเองกันหมดแล้ว ไม่มีใครมานั่งสร้างเนื้อหาให้ฟรีๆ ง่ายๆ เหมือนเดิมแล้ว และคนพวกนี้แหละจะมาคอยดูดคนออกจากบอร์ดไปเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ สุดท้ายบอร์ดที่หลงเหลืออยู่จะมีแต่บอร์ดที่ยังแข็งโป๊กอยู่มานาน หรือตัวเจ้าของบอร์ดเองเป็นคน contribute ลงไปนั่นแหละ หรือสุดท้ายก็คือเปลี่ยนคอนเซปท์ของบอร์ดเดิมๆที่รอคนมาสร้างคอนเทนต์ซะ”
ส่วนทางด้าน “หมอจิม” น.พ.ภาณุทัต เตชะเสน หนึ่งในผู้ชำนาญการวงการธุรกิจดิจิทัล ฟันธงว่า “ในมุมมองผมคือเว็บบอร์ดไปแน่นอนใน 2 ปีนี้” โดยหมอจิมให้เหตุผลว่า
“ในเมืองนอก Social Network ที่เป็น text based กำลังเสื่อมความนิยมในคนรุ่นใหม่อย่างหนัก สำหรับเมืองไทยก็น่าจะเหมือนกัน ยิ่งเราเป็นประเทศที่อ่านหนังสือกันไม่เกิน 8 บรรทัด Social Network ใหม่ๆ พวก Visual intensive อย่างคล้ายๆ Instagram, Pinterest, Snapchat จะดังขึ้น ผมคิดว่าเว็บบอร์ดคนอ่านน้อยลงครับ เนื่องจากคนเรามีเวลาน้อยลง การอ่านเว็บบอร์ดดังๆ ก็ยังมีอยู่บ้าง แต่เราอ่านเพราะจุดเรื่องแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่สักพักคนก็เบื่อ
แล้ว Facebook Group ซึ่งมีส่วนให้ Webboard ตายล่ะ?
“แม้แต่ Facebook Group ก็น่าจะค่อยๆ เสื่อมลง เพราะคนยิ่งอายุน้อยยิ่งต้องการ Visual intensive ไม่ต้องการ text มากๆ ตอนนี้พวกเราอาจจะมองไม่เห็นภาพ แต่ผมขอทายว่าเวลามัน shift มันจะ shift แรง เหมือนตอน Hi5 เปลี่ยนเป็น Facebook หรืออย่างตอนที่เกม Zinga ที่เคยได้รับความนิยมมาก กลับหมดความนิยม มันหมดแบบชั่วข้ามคืน นั่นเป็นเพราะคนในแต่ละ generation มันต่างกัน ของแบบนี้ต้องรอมันเปลี่ยน generation ก่อน ทั้งหมดนี้ไม่น่าจะเกิน 2 ปี” หมอจิมฟันธง
เราไม่ฟันธงว่าใครอยู่ใครไป แต่อยากจะรู้มุมมองของคุณด้วย คุณล่ะ อ่านความคิดเห็นด้านบนแล้ว คิดว่า Webboard อยู่หรือไป เพราะเหตุใด?