อย่างที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตหลายๆ ท่านคุ้นเคย เว็บไซต์หลายๆ เว็บไซต์เลือกที่จะให้ผู้ใช้งานแชร์เนื้อหาของพวกเขาผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง Facebook, Twitter หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่จากนี้พวกเขาอาจต้องพิจารณาเพิ่มช่องทางการแบ่งปันเนื้อหาใหม่ผ่านแอปพลิเคชันประเภทแชทอย่าง WhatsApp บ้างแล้ว
โดยจากรายงานของ Digitday ที่ได้เผยถึงความนิยมการแชร์เนื้อหาต่างๆ จากเว็บไซต์ FTW โดย USA Today พบว่าการแชร์เนื้อหาผ่าน WhatsApp นั้นได้รับความนิยมมากกว่าการทวีตข้อความทวิตเตอร์
หลัง FTW เพิ่มปุ่มแบ่งปันเนื้อหาผ่าน WhatsApp ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ยอดการแบ่งปันเนื้อหาจาก FTW ผ่านทาง WhatsApp ก็ได้เพิ่มขึ้นถึง 18% จากยอดการแบ่งปันเนื้อหาโดยรวม ซึ่งมากกว่า Twitter ที่มียอดทวีตต่อ 13% แต่ยังคงได้รับความนิยมต่ำกว่าการแบ่งปันเนื้อหาต่างๆ ผ่านอีเมลที่ 35% และ Facebook ที่ 34%
Jamie Mottram, Content Director แห่ง USA Today ได้เผยกับทาง Digiday ว่า นี่ถือเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขา แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่พวกเขาต้องเข้าให้ถึง ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายๆ เว็บไซต์ที่เริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานแชร์เนื้อหาของพวกเขาผ่าน WhatsApp แล้ว แต่จากสถิติการใช้งาน WhatsApp นั้น แสดงให้เห็นว่าการแบ่งปันเนื้อหาผ่าน WhatsApp อาจไม่ใช่ช่องทางการแบ่งปันเนื้อหาที่จะได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะจากจำนวนผู้ใช้งาน WhatsApp แบบ Active User จำนวน 500 ล้านคน พบว่า WhatsApp มีจำนวนการส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันเพียง 50 ล้านข้อความต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้การใส่ฟังก์แชร์เนื้อผ่าน WhatsApp นั้นยังไม่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ Android
นอกจาก FTW แล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า BuzzFeed ก็ได้ทดลองให้บริการการแบ่งปันเนื้อหาผ่าน WhatsApp บนอุปกรณฺ์ iOS เช่นกัน จากการให้บริการฟังก์ชันดังกล่าว พบว่ามีผู้อ่าน BuzzFeed แบ่งปันเนื้อหาต่างๆ ผ่าน WhatsApp มากกว่าการทวีตข้อความผ่าน Twitter เช่นกัน โดยรายงานของ Nieman Journalism Lab ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าจากจำนวนการแบ่งปันเนื้อหาของ BuzzFeed นั้นพวกเขานับแต่การแบ่งปันเนื้อหาผ่าน WhatsApp ด้วยอุปกรณ์ iOS เท่านั้น แม้จะยังเป็นสิ่งใหม่และยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าการแบ่งปันเนื้อหาผ่าน WhatsApp นั้นจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากหรือไม่ แต่ก็เป็นไปได้ที่ผู้บริโภคจะนิยมการแบ่งปันสิ่งต่างๆ อย่างเป็นส่วนตัวผ่านแอปพลิเคชันประเภทแชทมากกว่า
ที่มา : Marketing Land
