บริษัทวิจัย IDC ได้เผยผลการสำรวจการใช้จ่ายทาง IT สำหรับปี 2010 ผ่านรายงานที่มีชื่อว่า Worldwide Black Book ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายอดการใช้จ่ายโดยรวมทั้งปีสูงขึ้น 8% จากปี 2009 ทำให้ยอดมูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมดแตะ 1.5 ล้านล้านเหรียญแล้ว (ประมาณ 45 ล้านล้านบาท)
ยอดการใช้จ่ายรวมกว่า 1.5 ล้านล้านเหรียญดังกล่าวถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งหากมีการรวมการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเข้าไปด้วยแล้ว ตัวเลขรวมจะสูงถึงเกือบ 3 ล้านล้านเหรียญ (ราว 90 ล้านล้านบาท) หรือเติบโตกว่า 6% จากปี 2009 ซึ่งปัจจัยสำคัญก็คือการที่ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มฟื้นและหันมาให้ความสำคัญกับการปรับปรุงระบบต่างๆ ซึ่งมีผลให้ความต้องการฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ เช่น คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์เสริม, พื้นที่เก็บข้อมูล, อุปกรณ์มือถือ, และอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นกว่า 16% นับเป็นยอดเงินกว่า 661,000 ล้านเหรียญ (ราว 20 ล้านล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดตั้งแต่ปี 1996 ทีเดียว โดยสามารถแตกย่อยได้เป็นอัตราการเติบโตของอุปกรณ์พื้นที่เก็บข้อมูล 14%, การเติบโตของเซิร์ฟเวอร์ 9%, ส่วนของ PC 11%, ส่วนของซอฟท์แวร์ 4% และบริการอื่นๆ ทาง IT 2%
หากมองในส่วนของภูมิภาคแล้ว Asia/Pacific (ไม่รวมญี่ปุ่น) มีการเติบโตถึง 13% ในขณะที่สหรัฐอเมริกาเติบโต 6% ส่วนกลุ่มประเทศยุโรปกลางและตะวันออก, ลาตินอเมริกา, ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา น่าจะมีการเติบโตในปีนี้เป็นตัวเลข 2 หลัก ซึ่งหากมองที่ภาพรวมของทั้งโลกแล้ว IDC คาดการณ์ว่าทั้งภาพของ IT น่าจะมีการเติบโต 7% ในปี 2011 นี้ หรือเป็นยอดการใช้จ่ายรวมมูลค่า 1.65 ล้านล้านเหรียญ (ราว 49.5 ล้านล้านบาท)
ที่มา: CNET