ลองมาคิดกันเล่นๆ นะคะ ในกรณีทั่วๆ ไป รัฐบาลมีทางเลือกอะไรบ้างที่สามารถทำได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เราอาจจะตอบว่าก็ออกพันธบัตรตราสารหนี้สิ ลดภาษีนักท่องเที่ยวสิ จะได้มีคนมาจับจ่ายใช้สอยในบ้านเรามากขึ้น แต่สำหรับประเทศอิตาลี พวกเขาเลือกที่จะติดตั้ง Free Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะ โดยเมื่อ 3 ปีก่อน สมาชิกของสภานิติบัญญัติกว่า 100 คน เสนอให้ใช้งบประมาณเกือบ 200 ล้านบาท เพื่อติดตั้งจุดกระจายสัญญาณในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งสนามบิน จุดช้อปปิ้งใหญ่ๆ แม้กระทั่งห้องพิจารณาคดีในศาล
ในทางทฤษฎีแล้ว แผนการพัฒนาครั้งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบบรอดแบนด์แย่ๆ ในประเทศ หลังจากพบว่าประชากรชาวอิตาเลียนไม่ถึง 1% เท่านั้นที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกว่า 30 Mbps แรกเริ่มเดิมที โครงการนี้ก็มีเป้าหมายเพื่อทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชากรในประเทศสามารถทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็อาจจะรวมไปถึงนักท่องเที่ยวด้วย เพราะโดยมากแล้ว พวกเขามักจะอยู่ในสถานะออฟไลน์เมื่อมาท่องเที่ยวที่นี่
จนถึงตอนนี้มันก็ยังบอกไม่ได้ว่าโครงการนี้มันจะเวิร์กหรือเปล่า ฝ่ายที่คัดค้านก็ยกเหตุผลมาว่า แค่เพราะคนสามารถยืนรูดหน้าฟีดของ Facebook ระหว่างเดินเตร็ดเตร่หน้าชอป Prada แบบเพลินๆ ได้เนี่ย มันไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะอยากได้สินค้าคอลเลคชั่นล่าสุดในนั้นนะ ซึ่งอันนี้ขอเถียงนิดนึงนะคะ คนที่ยกเหตุผลนี้มาอ้าง อาจจะยังไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขามีโฆษณาแบบ Location-based แล้ว มันน่าจะเพิ่มโอกาสขายสินค้าได้บ้างแหละน่า
โครงการนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการนะคะ คาดกันว่ากว่าในสภาจะถกเถียงกันจบก็คงลากยาวไปจนถึงกลางปี 2015 นั่นแหละ แต่จะว่าไปแล้ว โครงการนี้อาจจะเป็นแนวทางการใช้เทคโนโลยีช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างตรงไปตรงมาที่สุดก็ได้ หากเป็น Wi-Fi ที่คนทั่วไปสามารถใช้ได้จริง
ในบ้านเราเองก็มีโครงการ Free Wi-Fi นำหน้าอิตาลีมาตั้งนานแล้วนะคะ (ถึงจะไม่ทั่วประเทศก็เถอะ) มีใครเคยได้ใช้บ้าง ชูมือสูงๆ ให้ดูหน่อยค่ะ 😀
ที่มา : Engadget