ข่าวนี้สำหรับสาวก Apple และผู้ที่รักในการซื้องานลิขสิทธิ์โดยเฉพาะ เพราะตอนนี้ Apple เปิดหน้าเพลงและภาพยนตร์บน iTunes Store ประเทศไทยให้สามารถเลือกซื้อได้แล้ว?รวมทั้งเปิดให้มีบริการ iTunes Match และ iTunes in the Cloud อีกด้วย
ปล่อยให้รอกันมานาน(มาก) จนในที่สุดทาง Apple ได้ทำการอัพเดทหน้าระบบร้านค้าหรือ iTunes Store สำหรับประเทศไทยให้คนไทยสามารถซื้อเพลงและ(ซื้อ,เช่า)ภาพยนตร์ได้แล้ว ด้วย?Apple ID ไทย โดยมีการเปิดส่วนของ Music และ Movies เพิ่มขึ้นมาบนหน้าจอ?ซึ่งก่อนหน้านี้หากต้องการซื้อเพลงหรือภาพยนตร์จะต้องทำผ่านหน้าจอ iTunes Store ของทางสหรัฐฯ และต้องเติมเงินผ่านทาง iTunes Card ของสหรัฐฯ เท่านั้น ไม่สามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตไทยได้
เรามาดูกันทีละส่วนครับทั้งเพลงและภาพยนตร์
เพลงหรือ Music มีเพลงให้เลือกซื้อมากมายทั่วโลก โดยสามารถซื้อได้ผ่านทาง App iTunes บน iPhone, iPad และ iTunes Store บน iTunes โดยคุณภาพเสียงที่ได้จากการซื้อจะเป็นรูปแบบ AAC (Advanced Audio Coding) 256 Kbps ซึ่งถือว่าเป็นคุณภาพที่สูงเทียบเท่าการบันทึกจากต้นฉบับหรือจากแผ่น CD Audio ราคาจะอยู่ที่เพลงละ 30-60 บาทแล้วแต่อัลบั้ม และถ้าซื้อยกอัลบั้มจะอยู่ที่ประมาณ 135-300+ บาท ซึ่งราคาเมื่อเทียบกับ CD เพลงต่างประเทศแล้ว ถือว่าถูกกว่าพอสมควร
สำหรับเพลงไทยที่มีให้เลือกซื้อบน iTunes Stores ค่ายใหญ่ๆ ในไทยอย่าง GMM หรือ RS ยังไม่มีเพลงให้เลือกซื้อในตอนนี้ (27 มิถุนายน 2555) แต่จะเจอเฉพาะเพลงจากค่าย Sony Music BEC เท่านั้น
สำหรับค่าย GMM ในตอนนี้มีการสร้างเป็น Application สำหรับศิลปินโดยเฉพาะ โดยอยู่ในรูปแบบชื่อวงหรือนักร้อง Fanclub ซึ่งมีอยู่ไม่กี่วง โดยใน Application นั้นจะมีข้อมูลของนักร้องหรือวงนั้นๆ ให้ได้อ่าน และเราสามารถซื้อเพลงได้ แต่จะเป็นการผ่านทาง Application และ Web Application โดยระบบการจ่ายเงินจะไม่มีการเกี่ยวข้องกับ iTunes แต่อย่างใด โดย 1 เพลงคิดราคาอยู่ที่ 20 บาท โดยคาดว่าจะต้องมีเพลงที่ขายบน iTunes Store โดยตรงในเร็ววันนี้อย่างแน่นอนเช่นกัน
ภาพยนตร์?สามารถซื้อได้ โดยจะมีให้เลือกเป็น High Definition 720p และแบบมาตรฐาน (Standard) และบางเรื่องมีบริการให้เช่าด้วย โดยราคามีดังนี้
- HD จะมีราคาอยู่ที่ 19.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 600 บาท
- SD หรือ Standard ราคาอยู่ที่ 9.99 – 14.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 300-450 บาท ขึ้นอยู่กับความใหม่-เก่าของเรื่องนั้นๆ
สำหรับราคาเช่า…
- HD อยู่ที่ 4.99 เหรียญสหรัฐฯ
- SD และ 3.99 เหรียญสหรัฐฯ
ส่วนโดยแต่ละเรื่องนั้นจะมีรายละเอียดการซื้อและราคาที่ไม่เหมือนกัน ลองดูได้จาก 2 เรื่องที่ยกมาเปรียบเทียบครับ
?และในบางเรื่องมีเสียงไทย, ซับไตเติลไทยให้เลือกอีกด้วย ต้องอ่านรายละเอียดด้านล่างของแต่ละเรื่องให้ดีดีครับ
สำหรับเครื่องที่สามารถซื้อและเช่าภาพยนตร์ในรูปแบบ HD ได้ จะต้องทำผ่าน iPhone, iPad, เครื่อง Mac และเครื่องที่ใช้งาน Windows 7 เท่านั้น ส่วนเครื่อง Windows XP จะสามารถซื้อได้ในแบบมาตรฐานเท่านั้น
ค่ายหนังที่เปิดการขายและเช่าหนังในตอนนี้ได้แก่ 20th Century Fox, Paramount Pictures, Sony Pictures Home Entertainment, The Walt Disney Studios และ Warner Bros. โดยถ้าเทียบความใหม่ของภาพยนตร์ระหว่าง Thai และ US แล้ว Thai ยังถือว่าเก่ากว่าพอสมควร
MI:4 มีเฉพาะใน iTunes Store US เท่านั้นนะจ๊ะตอนนี้ ของไทยเดินทางมาช้า?…
สิ่งที่แตกต่างของ iTunes Store Thai กับ US คือ
- ยังไม่มีการขาย TV Shows เช่นหนังซีรีย์หรือรายการต่างๆ
- ความละเอียดของภาพยนตร์ในแบบ HD ของ US จะมีทั้ง 720p, 1080p แต่ของไทยยังอยู่ที่ 720p เท่านั้น
การเล่นเพลงตัวอย่างบน iTunes Store Thai จะมีความยาว 30 วินาที?แต่ถ้าเป็น US จะเล่นถึง 90 วินาที*แก้ไข เนื่องจากระบบเปลี่ยนให้เหมือน US แล้วคือเล่นได้ความยาว 90 วินาทีเท่ากัน
และบริการที่เปิดเพิ่มขึ้นมาอีก 2 อย่างได้แก่ iTunes in the Cloud และ iTunes Match
ภาพจาก bgr.com
iTunes in the Cloud จะใช้รูปแบบเดียวกับการซื้อ Application โดยสามารถซื้อเพลงหรือภาพยนตร์เพียงครั้งเดียว ทุกเครื่องที่ใช้ Apple ID เดียวกันไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad ก็จะมีเพลงนี้เพิ่มลงไปด้วย ได้เราโดยไม่ต้องเสียสตางค์เพิ่ม ส่วน iTunes Match?เป็นคุณสมบัติในการเทียบข้อมูลหรือ Sync ของเพลงที่เราซื้อแผ่น CD เพลงมาแปลงไฟล์ขึ้นไปไว้บน iCloud อัตโนมัติก็เปิดบริการแล้วเช่นกัน แต่ต้องเสียสมัคร 24.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี โดยสามารถเก็บเพลงได้ 25,000 เพลง และสามารถใช้เครื่อง iOS และ Mac ในการเข้าถึงเพลงได้สูงสุด 10 เครื่อง อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ iTunes Match
สำหรับบริการทั้งหมดที่เปิดขึ้นใหม่บน iTunes Store นอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีประเทศในโซนเอเชียที่เปิดบริการนี้พร้อมๆ กับไทย ได้แก่ ฮ่องกง, สิงคโปร์, ไต้หวัน, บรูไน, กันพูชา, ลาว, มาเก๊า, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ศรีลังกา และเวียดนามอีกด้วย
*ในส่วนของข้อมูลเพลงและภาพยนตร์ที่มีขาย เห็นว่าเริ่มทยอยมีอัพเดทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งหน้า Store ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ (เมื่อคืนกับ ณ เวลาที่เขียนนี้ยังไม่เหมือนกันเลยครับ) ใครที่ยังหาเพลงไม่เจออาจจะต้องรออดใจอีกสักนิดครับ คิดว่าศิลปินดังๆ พร้อมมากระชากเงินในกระเป๋าแน่ๆ
อย่าลืมลองไปอุดหนุนและระวังใบเรียกเก็บจากบัตรเครดิตกันด้วยนะครับ เพราะว่ามันเพลินมากจริงๆ ^^
ที่มา: Apple Press, Macthai.com