Site icon Thumbsup

จาก “สมคิด” ถึง “แจ็ก หม่า” วันนี้ผู้บริหารขอเป็นพรีเซนเตอร์

เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อยสำหรับมหาเศรษฐีอย่างแจ็ก หม่า (Jack Ma) ที่ลงทุนสวมบทพนักงานขายลิปสติก พนักงานบรรจุกล่องสินค้า นายแบบ รวมถึงอีกหลายบทบาทเพื่อเชิดชูพนักงานตัวจริงที่ร่วมงานกับ Alibaba และบริษัทในเครือ วิดีโอที่ถูกเปิดตัวช่วงเทศกาล 11.11 ปีนี้ตอกย้ำว่า Jack Ma ยึดมั่นแนวทางเดิมที่ทำมานานหลายปี นั่นคือการดึงตัวเองขึ้นมาเป็นพรีเซนเตอร์ โดยไม่ต้องใช้ดารานักแสดงให้สิ้นเปลืองเงินทอง

สมคิดขอเอี่ยว

ไม่ใช่ Jack Ma คนเดียวที่ยึดแนวทางนี้ เพราะล่าสุดคือ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรีที่รับบทพรีเซ็นเตอร์กล่าวเชิญชวนชาวจีนให้มาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งรายงานระบุว่าสมคิดขอใช้ช่องทางออนไลน์ของ Alibaba ในการโปรโมทการท่องเที่ยวไทยช่วงเทศกาล 11.11 ด้วย

ในส่วนของ Jack Ma มหาเศรษฐีจีนผู้ก่อตั้ง Alibaba นั้นไม่ได้ดึงตัวเองมาเป็นพรีเซนเตอร์ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ Jack Ma เคยออกมาโชว์บนเวทีในชุดสีดำทองและเต้นเพลง “Billie Jean” ของ Michael Jackson ต่อหน้าพนักงานจำนวน 4 หมื่นราย ในงานฉลองวันครบรอบก่อตั้งบริษัทปีที่ 18 ที่นครหังโจว มณฑลเจ้อเจียง จนเป็นข่าวดังก่อนช่วงเทศกาล 11.11 ปี 2017

นอกจากนี้ Jack Ma ยังได้รับบทภาพยนตร์สั้นในฐานะนักสู้และนักร้อง ซึ่งทำให้ Jack Ma ได้เดบิวต์เปิดตัวพร้อมกับดีว่าชื่อดังของฮ่องกง Faye Wong มาแล้ว

สำหรับครั้งนี้ Jack Ma พาตัวเองมาเป็นข้อเปรียบเทียบ เพื่อให้เห็นความสามารถและประสิทธิภาพโดดเด่นของพนักงาน Alibaba ด้วยการแข่งขันกับพนักงานมืออาชีพที่มีความถนัดในงานเฉพาะทางเป็นพิเศษ แน่นอนว่า Jack Ma พ่ายแพ้หมดรูปทั้งการแข่งขันบรรจุกล่องสินค้า การแข่งถ่ายแบบ การแข่งจับปู การแข่งขันจำหน่ายลิปสติก และการจัดส่งสินค้า

บทสรุปที่น่าสนใจ

บทสรุปที่ Jack Ma พยายามมอบไว้ให้ในวิดีโอปีนี้ คือการบอกผู้ชมว่าเราทุกคนไม่ต้องเก่งกาจในทุกด้าน แต่ควรจะได้ร่วมงานกับคนที่มีความสามารถหลากหลายด้านเหล่านี้ ซึ่งหากทำได้ ความสำเร็จก็จะรออยู่แค่เอื้อม

วิดีโอนี้ได้รับคำชมล้นหลาม และมีสัดส่วนการเปิดชมสูงจนตอกย้ำให้คนจดจำแม่นว่า “Jack Ma คือ Alibaba” ตามคำพูดที่ Jack Ma เคยระบุในแถลงการณ์เตรียมลาตำแหน่งซีอีโอ Alibaba ปี 2019

ไม่ว่าการแสดงเหล่านี้เป็นความชื่นชอบส่วนตัวของ Jack Ma เองหรือไม่ แต่ผลพลอยได้ของการเป็นผู้นำเสนอหรือพรีเซนเตอร์เหล่านี้คือ Jack Ma จะเป็นที่จดจำมากขึ้นไปอีก ทั้งในสังคมออนไลน์และออฟไลน์ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ Alibaba ที่เขาก่อตั้งขึ้นมา

การที่ Jack Ma พาใบหน้าตัวเองขึ้นเวทีหรือออกสื่อ สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากผู้ชมที่เป็นลูกค้า Alibaba ได้มากกว่าการใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นดารานักแสดงมืออาชีพเสียอีก แนวคิดนี้เองที่ทำให้ผู้บริหารประเทศไทยอย่าง “สมคิด” ลงทุนออกมาพูดภาษาจีนเชิญชวนหน้ากล้องบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยได้เห็นไม่บ่อยนัก

หากการลงทุนครั้งนี้ได้ผล เราอาจเห็นหลายแบรนด์เดินตามแนวทางนี้มากขึ้น ไม่แน่ ผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์นั้นอาจแจ้งเกิดในฐานะพรีเซนเตอร์ที่โดดเด่นได้เป็นรายต่อไป.