Rakuten เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดังสัญชาติญี่ปุ่นเปิดร้านให้บริการในประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ แจ้งเกิดชื่อ Rakuten.com.sg เพื่อดึงดูดนักช้อปแดนเมอร์ไลออนให้ได้ลิ้มลองหนทางการช้อปเส้นทางใหม่ที่หลากหลายกว่า
สิงคโปร์นั้นเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่ามีอัตราการใช้งานอินเทอร์เน็ตต่อประชากรสูงที่สุดในอาเซียน โลกจึงมองว่าตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ในสิงคโปร์นั้นขยายตัวเต็มที่แม้ว่าประชากรสิงคโปร์จะมีจำนวนไม่กี่ล้านคน ล่าสุด Rakuten เสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้อาศัยในสิงคโปร์มีช่องทางสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้หลากหลายขึ้นกว่าเดิม โดยเปิดรับออเดอร์และจัดส่งถึงชาวสิงคโปร์อย่างเป็นทางการครั้งแรก
การเปิดตัวครั้งนี้ถูกประกาศผ่านเพจ Facebook ของ Rakuten Singapore เมื่อคืนวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา การประกาศนี้เป็นไปตามแนวโน้มที่ Rakuten เคยบอกใบ้ไว้เมื่อเดือนสิงหาคมว่าจะเริ่มให้บริการในสิงคโปร์ก่อนปลายปีนี้ โดยรายงานระบุว่า เว็บไซต์ Rakuten เวอร์ชันสิงคโปร์จะวางจำหน่ายสินค้าหลากประเภท ทั้งเสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงหนังสือ
นอกจากช้อปปิ้ง นักช้อปในสิงคโปร์จะได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการแลกรางวัล Rakuten Super Points ซึ่งผู้ซื้อจะสามารถสะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัลที่ต้องการจากการคลิกซื้อสินค้าทุกครั้ง
ก่อนหน้านี้ Rakuten แสดงท่าทีสนใจขยายธุรกิจเข้ามาให้บริการในสิงคโปร์มาตลอด โดย Rakuten เคยจัดงานแข่งขันประกวดสตาร์ทอัปหน้าใหม่ด้วยการเชิญชวนนักพัฒนาสิงคโปร์มาสร้างร้านค้าออนไลน์บนชุดโปรแกรม API ของ Rakuten ขณะเดียวกัน Rakuten ยังพยายามแทรกตัวเข้าสู่ระบบอีโคซิสเต็มส์ของสตาร์ทอัปสิงคโปร์อย่างจริงจังด้วยการเทเงินซื้อกิจการ Viki ด้วยเงินมูลค่ามากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือการนำเงินทุนมากกว่า 800,000 เหรียญสหรัฐลงทุนในผู้ให้บริการร้านค้าออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือนามว่า Carousell รวมถึงการเพิ่มทุนให้กับสตาร์ทอัปผู้พัฒนาระบบเก็บค่าบริการเครือข่ายอย่าง Coda Payments
แม้วันนี้ Rakuten จะถูกมองว่ายังไม่ลงมือสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดที่พุ่งเป้าไปที่นักช้อปโดยตรง แต่ในอนาคต นักสังเกตการณ์เชื่อว่า Rakuten จะเปลี่ยนแปลงท่าทีแน่นอน เหตุผลสำคัญคือการแข่งขันที่ดุเดือดยิ่งขึ้นรอบด้านทั้งจากคู่แข่งอย่าง Rocket Internet, Amazon, eBay, Qoo10 รวมถึงตลาดออนไลน์ C2C ของจีนอย่าง Taobao ที่จะร่วมเล่นในตลาดอาเซียนอย่างจริงจังช่วงปลายปีนี้ถึงปีหน้า ล้วนทำให้ Rakuten ต้องปรับทั้งทัศนคติและกลยุทธ์ในการแข่งขัน
ที่มา: TechinAsia