JobDB ได้เผยผลสำรวจเกี่ยวกับการจ้างงานในประเทศไทย ที่ต่างฝ่ายต่างก็ต้องการทักษะและศักยภาพที่ดี รวมทั้งค่าจ้างคุ้มค่ากับความสามารถซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี ที่จะช่วยให้คนไทยพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น
จากผลสำรวจพบว่าแนวโน้มการจ้างงานสำหรับประเทศไทยนั้น นายจ้างยังคงมองหาพนักงานที่มีคุณภาพ ทักษะสูง พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของตลาดงานในระดับภูมิภาค ด้านผู้หางานยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์จ้างงานอันเป็นผลจากการขาดทักษะในการทำงานที่หลากหลาย โดยภาษาและเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยท้าทายของผู้หางาน
จุลเดช มัชฉิมานนท์ ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าองค์กร บริษัท จัดหางาน จ็อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า 50% ของผู้ประกอบการ มีแนวโน้มจ้างงานมากขึ้นจากการขยายธุรกิจ และ 25% จะจ้างเฉพาะตำแหน่งงานที่จำเป็นเท่านั้น ช่วงเวลาที่มีความต้องการการจ้างงานมากที่สุดคือ มกราคม ซึ่งเป็นช่วงหลังจากรับโบนัสปลายปี และ มิถุนายน โดยเป็นช่วงที่คนเรียนจบและเริ่มหางาน ประกอบกับลูกจ้างที่ได้รับโบนัสในช่วงไตรมาสแรกของปี
5 อันดับธุรกิจที่เติบโตสูงสุด
- ธุรกิจโฆษณา การตลาดและประชาสัมพันธ์
- ธุรกิจวิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และวิศวกรรมเครื่องกล
- ธุรกิจกิจไอที
- ธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้า/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
5 กลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตของการลงโฆษณาประกาศหางานมากที่สุด
- ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก
- ธุรกิจการผลิต
- ธุรกิจเทรดดิ้ง
- ธุรกิจไอที
- บริการด้านการเงิน
นอกจากนั้นแล้วธุรกิจทั้ง 5 กลุ่มนี้ ยังมีอัตราความต้องการบุคคลากรเพิ่มมากที่สุดด้วยเช่นกัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0
5 ตำแหน่งงาน เฉพาะด้านที่มีความต้องการสูงสุด
- พนักงานขายและพัฒนาธุรกิจ
- วิศวกร
- ธุรการและงานบุคคล
- เจ้าหน้าที่ไอที
- พนักงานการตลาดและประชาสัมพันธ์
โดยมีปัจจัยผลักดันให้เกิดความต้องการจาก อัตราการลาออกสูง โลกาภิวัฒน์ ความต้องการด้านทักษะที่เปลี่ยนแปลงไป
ด้านวรวุฒิ วาริการ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ็อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผู้หางาน 53% ไม่มั่นใจว่าจะหางานได้ง่ายในปีนี้ เพราะมีความท้าทายหลายปัจจัย เนื่องจากผู้หางานต้องพัฒนาทักษะที่หลากหลาย ทั้งด้านการแข่งขันตามสายงานที่เข้มข้นขึ้น และด้านภาษา การปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรที่มีความแตกต่าง รวมถึงต้องเรียนรู้ด้านไอทีและโลกดิจิทัล ถึงแม้ตลาดงานจะมีตำแหน่งงานแต่การแข่งขันก็สูงขึ้นตามไปด้วย
จากผลสำรวจผู้หางานมีมุมมองว่า ธุรกิจปิโตรเลียมและธุรกิจยานยนต์ มีการเติบโตรวมถึงมีอัตราผลตอบแทนสูง
แต่ผลสำรวจพบว่าธุรกิจขายส่งและธุรกิจการผลิต ซึ่งเป็นธุรกิจพื้นฐานที่ขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศชาติอย่างแท้จริงนั้น มีอัตราการเติบโตของการลงประกาศงานในจำนวนที่สูง รวมถึงปัจจัยเรื่องค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของพนักงานระดับบริหารที่น่าดึงดูดใจสร้างแรงจูงใจให้ผู้หางานปรับพฤติกรรมในการหางาน ด้วยการหางานอย่างจริงจังมากขึ้น
ทางด้าน แองจี้ เอส ดับเบิ้ลยู พัง (Angie SW. Phang) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและปฏิบัติการระดับภูมิภาค (Group Regional Sales & Operations Director) บริษัท SEEK Asia เปิดเผยว่า สถานการณ์การจ้างงานของผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคอาเซียนและฮ่องกงมีแนวโน้มสดใส โดยจากผลสำรวจพบว่า 47% ของผู้ประกอบการมีการขยายธุรกิจและจ้างงานเพิ่มขึ้น และอีก 27% มีการทดแทนตำแหน่งงานเท่าที่จำเป็น
การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไทยเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อภาพรวมตลาดงานในประเทศ ดังนี้
- 50% ของผู้ประกอบการวางแผนขยายกิจการและจ้างงานเพิ่มขึ้น
- ความไม่สมดุลระหว่างการคาดการณ์กับความเป็นจริงของการเติบโตของธุรกิจ
- 3 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความต้องการจ้างงานโดยตรงประกอบด้วย อัตราการลาออกเพิ่มขึ้น โลกาภิวัฒน์ และความต้องการด้านทักษะที่เปลี่ยนแปลงไป
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป
- ผู้หางานที่ตอบแบบสอบถามจำนวน 53% ระบุว่าการแข่งขันจะมากและยากขึ้น
- ความไม่สมดุลระหว่างมุมมองการคาดการณ์ธุรกิจที่เติบโตและความเป็นจริงของการเติบโตตลาดงานที่สวนทางกัน
- การเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการหางานที่พร้อมจะค้นหาความท้าทายใหม่ๆ ตลอดเวลา
คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการและผู้สมัครงาน
- องค์กรควรเสริมสร้างกลยุทธ์การสรรหาและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ โดยผู้หางานต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการคัดเลือกที่มีความเข้มข้นมากขึ้น
- ควรเตรียมความพร้อมทั้งในการสร้างและทดแทนผู้หางานที่มีความสามารถสูง ส่วนผู้สมัครงานต้องมีการพัฒนาศักยภาพและทักษะของตนเองให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา
- พัฒนาการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะช่วยในการดึงดูดผู้หางาน ผ่านช่องทางสื่อสารออนไลน์ ในขณะที่ผู้หางานต้องเปิดรับข้อมูลการจ้างงานจากช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น