ซีค เอเชีย (SEEK Asia) บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มหางานชั้นนำอย่าง จ๊อบสตรีท (JobStreet) และ จ๊อบส์ดีบี (JobsDB) และถือหุ้นใน จ๊อบโคเรีย (JobKorea) และ บีดีจ๊อบส์ (BDJobs) ในบังคลาเทศ
สรุปยอดจำนวนผู้เข้าร่วมงาน Asia’s Biggest Virtual Career Fair มหกรรมหางานออนไลน์ที่มุ่งหวังเป็นสื่อกลางเชื่อมต่อระหว่างโอกาสงานในสายเทคและดิจิทัลหลายพันตำแหน่งและผู้หางานหลายแสนคน
เปิดเผยว่างานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานในรูปแบบออนไลน์กว่า 5 ล้านคน จาก สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง และไทย
ซีค เอเชีย ในฐานะแพลตฟอร์มผู้นำในการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลให้แก่ผู้ประกอบการและผู้หางาน ถือโอกาสจัดงานมหกรรมหางานออนไลน์ ท่ามกลางความมั่นใจในสถานการณ์เศรษฐกิจที่คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเป็นปรากฏการณ์ในรอบ 2 ปีนับตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มโรคระบาด
โดยงานดังกล่าวที่ยาวนานกว่า 2 สัปดาห์ครั้งนี้ นอกจากจะได้รับเสียงตอบรับและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการสายเทคและดิจิทัลชั้นนำมากมายที่เข้าร่วมงานแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เหล่าผู้หางานเข้าชมสัมนาออนไลน์กว่า 100 หัวข้อ โดยสำหรับประเทศไทยมีสัมนาที่น่าสนใจมากมาย
อาทิ “จับตาให้ดี! เทรนด์เทคโนโลยีมาแรงแห่งปี 2022” โดยบริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด ”ส่องโลกเสมือนจริง เมื่อ Metaverse มา คนทำงานต้องปรับทิศทางอย่างไร” โดยบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เป็นต้น เพื่อเปิดมุมมองใหม่ ๆ พร้อมเสริมความรู้ ความสามารถ ใช้เป็นแนวทางประกอบและต่อยอดการสมัครงานได้ในอนาคต
หากกล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์/ไอที ในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้หลายธุรกิจ มีการประยุกต์นำอุปกรณ์และเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ เข้ามาใช้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ความต้องการบุคลากรที่มีทักษะดิจิทัลจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์/ไอที
มีการประกาศรับสมัครงานสูงสุดมากกว่า 12,200 ตำแหน่งในปี 2564 เมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ บนแพลตฟอร์มของ จ๊อบส์ดีบี ประเทศไทย ทั้งนี้ ในแง่ของสายงาน สายงานไอทียังเป็นสายงานที่มีการปรับเพิ่มของอัตราเงินเดือนเฉลี่ยสูงที่สุดถึง 41% อีกด้วย
คุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อผู้ประกอบการและผู้หางานในหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศ เมื่อพิจารณาจากผลสำรวจ พบว่า อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์/ไอที ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความขาดแคลนด้านบุคลากรมากเป็นอันดับ 1
ซึ่งจ๊อบส์ดีบี (JobsDB) เห็นถึงช่องว่างระหว่างความต้องการจ้างงานของผู้ประกอบการและความต้องการมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ของผู้หางานในอุตสาหกรรมนี้ เราในฐานะแพลตฟอร์มหางานชั้นนำของไทย ภายใต้เครือ SEEK Asia จึงถือโอกาสจัดงานมหกรรมจัดหางานออนไลน์ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและผู้หางานทั้งในและต่างประเทศจากประเทศพันธมิตรที่เข้าร่วม ได้เข้าถึงผู้ประกอบการและโอกาสงานในฝัน
ทั้งนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจภูมิภาคโดยรวมที่มีแนวโน้มค่อย ๆ ฟื้นตัว มหกรรมจัดหางานออนไลน์จะสามารถเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มการจ้างงาน และลดช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาดงานอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์/ไอที และสายงานเทคและดิจิทัลได้ในที่สุด”
โอกาสงานที่มากมายจะช่วยนำพาให้เศรษฐกิจระดับภูมิภาคค่อย ๆ ฟื้นตัว และตลาดแรงงานปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ในขณะเดียวกัน ผู้หางานก็จะมีโอกาสที่จะได้งานที่ใช่และตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น หากอ้างอิงจากรายงานสถิติ ผลสำรวจรายงาน “ถอดรหัสลับ จับทิศทางความต้องการคนที่มีทักษะดิจิทัล” พบว่า แรงงานที่มีทักษะดิจิทัลกำลังมองหางานใหม่ หรือวางแผนปรับเปลี่ยนงานในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ จากการสำรวจแรงงานผู้ที่มีทักษะดิจิทัลกว่า 9,000 คน ในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เดนมาร์ก รวมถึงประเทศไทย พบว่า 63% ของผู้ที่มีทักษะดิจิทัลมองหาโอกาสงานใหม่ในบทบาทอื่นที่ดีกว่าเดิม ในขณะที่ 49% ต้องการความท้าทายใหม่ ๆ เมื่อต้องการเปลี่ยนงาน
ดร.สุพจน์ ศรีนุตพงษ์ หัวหน้าส่วนงานการจัดการความรู้ด้านเทคนิค บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ร่วมให้ความรู้ในสัมนาออนไลน์ หัวข้อ “ส่องโลกเสมือนจริง เมื่อ Metaverse มา คนทำงานต้องปรับทิศทางอย่างไร” ว่า “สถานการณ์โควิด 19 ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้หลาย ๆ องค์กรใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมากมาย โดย 1 ในเทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปัจจุบันคือเทคโนโลยี Metaverse เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนในแง่ของการเช่าพื้นที่ อีกทั้งยังให้ประสิทธิภาพในแง่ของการสื่อสาร การเข้าถึงไฟล์เอกสาร และการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ใกล้เคียงกับโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งความเข้าใจและความสามารถในการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีนี้ ถือเป็นทักษะที่กลุ่มคนวัยทำงานยุคใหม่ควรพัฒนาไปแบบคู่ขนาน”
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI), Blockchain และ Cryptocurrency ที่ ดร. สุพจน์ เน้นย้ำว่า “คนทำงานควรจะอธิบายได้ถึง ลักษณะการทำงานและผลกระทบของเทคโนโลยีเหล่านี้ต่อชีวิตการทำงานหรือชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังต้องพัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหาและการสื่อสารกับผู้คน โดยจิตใจที่แสวงหาการพัฒนาทั้งความรู้และทักษะที่สนับสนุนการทำงานนอกเหนือจากความรู้ทางเทคนิค คือสิ่งที่องค์กรมองหาจากผู้สมัครงานหน้าใหม่”
มหกรรมจัดหางานออนไลน์ในครั้งนี้ยังถือเป็นสื่อกลางเชื่อมระหว่างผู้ประกอบการและผู้หางาน ช่วยจับคู่โอกาสงานที่หลากหลายกับผู้สมัครที่มีความรู้ ความสามารถ ทั้งนี้ เพื่อผลักดันตลาดแรงงานในภูมิภาคให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นต่อไป
ปีเตอร์ บิโธส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีค เอเชีย กล่าวเสริมว่า “ซีค เอเชีย มุ่งจัดหาและพัฒนากลยุทธ์ล้ำสมัยต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อเป็นสื่อกลางเชื่อมต่อผู้หางานเข้ากับงานในฝัน และเชื่อมต่อผู้ประกอบการเข้ากับผู้สมัครที่มีความสามารถตรงกับที่มองหา ทั้งนี้ แรงขับเคลื่อนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีได้สร้างโอกาสงานกว่า 10,000 ตำแหน่งให้ผู้หางานได้เลือกสรร ซึ่งเรามั่นใจว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีการเพิ่มจำนวนตำแหน่งงานใหม่ ๆ มากขึ้นจากการที่ตลาดในหลายประเทศในภูมิภาคเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโรคระบาด
ในขณะที่เรามุ่งสร้างธุรกิจให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มหางาน ซีค เอเชีย ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดหาบุคลากรคุณภาพให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ตลาดแรงงานในภูมิภาคฟื้นตัวและเติบโต นอกจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล เราได้มีการลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยี AI ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมถึง 6 เท่าในการช่วยจับคู่ผู้ประกอบการและผู้หางาน ให้ได้งานหรือบุคลากรที่ตรงกับสิ่งที่มองหามากที่สุด”
คุณวิภาดา เอกโองการ ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทย เอ็นเอส โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ใช้บริการ JobsDB เป็นหลักในการหาบุคลากรมาโดยตลอด งาน Virtual Career Fair ครั้งนี้ ทำให้เราได้รับผู้สมัครที่มีคุณภาพ และหลากหลาย ซึ่งตรงกับความต้องการของบริษัทฯ ขอยืนยันอีกเสียงค่ะ ว่า JobsDB เป็นแพลตฟอร์มที่มีคุณภาพในประเทศไทย และมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”