วันนี้ใครก็สามารถซื้อบ้านขนาดเล็กแบบสำเร็จรูปใน Amazon และ Facebook ได้ง่ายๆ แต่ John Kernohan คือผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้านจิ๋วที่เคยถูกหลอกหลังจากซื้อบ้านสำเร็จรูปใน Facebook เพื่อไม่ให้ใครต้องถูกหลอกอีก หนุ่ม John Kernohan จึงเผยเคล็ดลับให้ชาวออนไลน์หลีกเลี่ยงชะตากรรมช้ำใจแบบได้ผลจริง
ความเชี่ยวชาญเรื่องบ้านจิ๋วของ John Kernohan มีที่มาน่าสนใจ เพราะจากที่เคยทำงานในวงการวิจัยทางการแพทย์ John ตัดสินใจเกษียณเมื่ออายุ 49 ปีด้วยอาการป่วยที่ทำให้ตัวเขาเข้าใจแล้วว่าความมั่งคั่งทางการเงินไม่มีค่าเท่ากับการได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
เมื่อขายธุรกิจห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ไป John Kernohan ก็หันมารักษาสุขภาพ ลดน้ำหนักได้กว่า 80 ปอนด์ ลดเอวได้มากกว่า 10 นิ้ว จากนั้นก็ย้ายมาพักแรมในป่าที่อากาศสดชื่นร่วมกับภรรยาชื่อ Fin ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ John Kernohan ลุกขึ้นมาทำสิ่งที่รัก นั่นคือการสร้างบ้านในป่าด้วยมือตัวเอง
ผลคือ John Kernohan สามารถสร้างบ้านขนาดย่อมร่วมกับภรรยาในชื่อ Beloved Cabin บ้านขนาด 304 ตารางฟุตนี้ทนทานจนสามารถใช้พำนักได้นานเกิน 6 ปี
จนปลายปี 2015 ภรรยาของ John จึงผลักดันอีกครั้งให้เขาก่อตั้งสมาคม Georgia Tiny House Association ก่อนจะมีการเปลี่ยนชื่อเป็น United Tiny House Association จนมีนาคม 2016 ทางกลุ่มสามารถจัดงานอีเวนท์แรกในชื่อ 2016 Georgia Tiny House Festival
ตั้งแต่นั้นมา กรรมการบริหารสมาคมก็สามารถจัดงาน Tiny House Festival มากกว่า 7 ครั้งที่ฟลอริดา จอร์เจีย นิวเจอร์ซีย์ และเทสเนสซี โดยจัดเป็นประจำทุกปีจนมีผู้เข้าร่วมงานเกิน 6 หมื่นราย
ตลาดบ้านจิ๋วกำลังโตบนออนไลน์
John Kernohan ย้ำว่า วันนี้ผู้คนในหลายประเทศคลิกซื้อรถยนต์ผ่านร้านออนไลน์ ขณะที่บางคนซื้อเรือ แนวโน้มนี้ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่กระแสการซื้อบ้านหลังเล็กสำเร็จรูปทางออนไลน์จะเริ่มร้อนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่ปัญหาคือ ผู้ซื้อสินค้ากลุ่มบ้านสำเร็จรูปนั้นไม่ควรไว้วางใจกับภาพที่เห็นบนร้านออนไลน์ เห็นได้ชัดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องบ้านหลังเล็กอย่าง John Kernohan ยังพลาดเมื่อตัดสินใจซื้อบ้านหลังเล็กรูปโดมจากตลาดออนไลน์ของ Facebook หลังจากตรวจสอบที่เว็บไซต์ของบริษัท และเห็นว่ามีหมายเลขโทรศัพท์ รวมถึงอีเมลในหน้าบริการลูกค้า จึงคลิกซื้อและพิมพ์หมายเลขบัตรเครดิตโดยไม่ติดตามหาคำวิจารณ์หรือติดต่อบริษัท เพื่อตรวจสอบข้อมูลเพิ่ม
John Kernohan เล่าว่าทุกอย่างดูดีในช่วงแรก เพราะมีอีเมลยืนยันและหมายเลขติดตามเรียบร้อย แต่เมื่อบ้านถูกส่งมาถึง John Kernohan พบว่าบ้านมีขนาดเล็กอย่างผิดปกติ ซึ่งแทนที่ควรจะมีชุดประกอบบ้านขนาดเล็กเหมือนแบรนด์ที่น่าเชื่อถืออื่น ทั้งผนัง หน้าต่าง และส่วนประกอบอื่นของบ้านที่ต้องต่อรวมเข้าด้วยกัน แต่สิ่งที่ได้รับมีเพียงสาย USB 1 เส้นเท่านั้น
เป็นโชคดีสำหรับ Kernohan ที่สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนกับบริษัทบัตรเครดิต ซึ่งคืนเงินให้หลังจากเห็นว่าแพคเกจบ้านจิ๋วที่ส่งมาให้นั้นมีน้ำหนักเพียง 2 ออนซ์เท่านั้น
John Kernohan ยอมรับความผิดพลาดว่าได้ทำทุกสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งถือเป็นประเด็นน่ากังวลเพราะวันนี้การขยายตัวของร้านค้าออนไลน์ที่ให้บริการสั่งซื้อบ้านนั้นชัดเจน
เนื่องจากการค้นหาใน Amazon หรือ Google ต่างแสดงสินค้ากลุ่มบ้านขนาดเล็กสำเร็จรูปจำนวนมากที่ลูกค้าสามารถซื้อออนไลน์ได้หลากหลาย ตั้งแต่บ้านหลังเล็กที่มีพลังงานแสงอาทิตย์ราคา 36,800 เหรียญ (ราว 1,118,462 บาท) ไปจนถึงบ้านราคา 64,650 เหรียญ (ราว 1,964,000 บาท) ที่มีขนาดใหญ่กว้างขวาง
จากสถิติพบว่า เฉพาะใน Amazon เพียงอย่างเดียว การค้นหาคำว่า “tiny house” ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มลานบ้าน สนามหญ้า และสวนก็พบผลลัพธ์มากกว่า 3,000 รายการ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นชุดบ้านสำเร็จรูปที่รวมถึงผนังและหลังคา แต่มักจะไม่มีไฟฟ้า และระบบประปาซึ่งผู้ซื้อต้องเดินระบบด้วยตัวเอง หรือหาผู้สร้างที่จะมาทำให้
แต่ใน Facebook ตลาดบ้านจิ๋วได้รับความสนใจเพราะการเป็นแหล่งขายบ้านหลังเล็กมือสองที่เคยถูกใช้งานมาแล้ว แต่ทั้ง Amazon และ Facebook ต่างก็เป็นอีกช่องทางที่ทำให้ชุมชนคนรักบ้านหลังเล็กออนไลน์ผูกติดกับบ้านจิ๋วนอกจากเว็บไซต์อย่าง tinyhouselistings.com และ tinyhomesclassified.com
กฎทองคือต้องดูรีวิว
John Kernohan ย้ำว่ากฏแรกที่ต้องทำในการสำรวจตลาดบ้านออนไลน์ คือการอ่านความคิดเห็น แต่ทุกคนจะต้องแยกแยะว่ารีวิวใดที่เชื่อถือได้ Kernohan มองว่าบางครั้งผู้คนจะซื้อบ้านหลังเล็กใน Amazon โดยคิดว่าจะได้รับบ้านขนาดเต็มที่ส่งถึงที่ทางไปรษณีย์ ซึ่งจะประกอบรวมกันเข้าง่ายดายเหมือนกับชั้นวางหนังสือของ Ikea ที่มีคู่มือมาพร้อม แต่ความจริงนั้นไม่ใช่ เพราะชุดบ้านหลังเล็กเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีสายไฟ ประปา หรือฉนวนกันความร้อนให้มา รวมถึงอีกหลายส่วนประกอบที่ทำให้ผิดหวังจนอาจจะทิ้งคำวิจารณ์ที่น่ากลัว ซึ่งจะแตกต่างจากความเห็นอื่นที่ดูเป็นบวกเกินไป
John Kernohan ย้ำว่าให้มองหาคำวิจารณ์จากผู้ซื้อจริงที่ได้ “สัมผัสและใช้งานจริงจัง” พร้อมกับการวิจัยบริษัทอย่างละเอียดไปด้วยโดยอิงกับกรอบระยะเวลา ซึ่งหากพบเห็นข้อร้องเรียน 5 หรือ 6 ข้อใน 2 ปีที่ตัวบ้านไม่ได้ถูกส่งมอบ ก็ไม่ควรซื้อบ้านจิ๋วออนไลน์จากบุคคลนั้นอีกต่อไป” เขากล่าว
ท้ายที่สุดแล้ว John Kernohan เชื่อว่าการซื้อบ้านสำเร็จรูปจาก Amazon นั้นไม่ต่างอะไรกับการปลูกผมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เพราะในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา บริการปลูกผมยังเป็นเรื่องใหม่ที่จำกัดในวงผู้ชายไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งการซื้อบ้านจิ๋วสำเร็จรูปจาก Amazon มีโอกาสที่จะแผร่หลายมากขึ้น เพราะผู้บริโภคอาจเดินตามมามากขึ้นเมื่อได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งเริ่มทำไปก่อนแล้ว.
ที่มา: FastCompany และ Voyage