ท่ามกลางพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนรูปแบบการฟังเพลงจากเดิมที่ฟังแบบผิดลิขสิทธิ์หรือดาวน์โหลดจาก Store มาเป็นเช่าฟังหรือ Streaming มากขึ้น ทำให้มีผู้เล่นหันมาเปิดให้บริการมากขึ้นรวมทั้งในประเทศไทย JOOX คือ 1 แอปพลิเคชันที่เริ่มทดลองตลาดในประเทศไทยมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 จนตอนนี้ก็ได้ประกาศเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย
คุณกฤตธี มโนลีหกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด ได้พูดถึงการเปิดตัวแอปพลิเคชัน JOOX ที่เริ่มทดลองตลาดในงานแถลงข่าวว่า ในช่วงปี 2012 – 2015 คนไทยให้ความสนใจและหันมาฟังเพลงที่เป็น Streaming กว่า 75% โดยมีปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น, การเติบโตในการใช้สมาร์ทโฟน รวมถึงการมาของ 3G และ 4G ที่เปิดให้บริการ ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้บริการด้าน Streaming ได้รับความนิยมจากคนไทยไปด้วย และทำให้ทางสนุก ออนไลน์ นำ JOOX เข้ามาทดลองให้บริการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 และได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากผู้ใช้งานในไทยด้วยข้อมูลที่ได้ดังนี้
ข้อดี
- แอปพลิเคชันใช้งานง่าน
- ฟรี
- มี Playlist ที่หลากหลาย
- มีเนื้อเพลงที่สามารถร้องตามได้
- คุณภาพเสียงดี และมีระบบ DTS
รวมทั้งมีัการเปิดเผยสถิติช่วงทดลองใช้งานประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา
- 71% เปิดเพลงไทย รองลงมาคือเพลงสากลและเพลงต่างประเทศ เช่น เกาหลี
- มีการฟังเพลงมากกว่า 400 ล้านครั้งตั้งแต่เริ่มทดลอง
- มีการเปิดหน้าจอ (Screen View) เฉลี่ย 20 ล้านครั้งต่อวัน
- ใช้งานต่อครั้งโดยเฉลี่ย 1.5 ชั่วโมง/วัน
JOOX เองได้ให้บริการครั้งแรกในปี 2014 ที่ประเทศฮ่องกง และได้ขยายการให้บริการใน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย ด้วยบริการแบบ Freemium ที่ให้ผู้ฟังทุกคนสามารถฟังเพลงได้ทุกคน และมีตั้งทีม Editor เพื่อจัด Playlist โดยเฉพาะเพื่อให้ผู้ฟังสามารถเลือกเพลงได้ตามสถานการณ์, กิจกรรม และอารมณ์ ณ เวลานั้นได้ และจะมีการอัปเดทเพลงและ Chart เพลงอยู่ทุกสัปดาห์
รวมทั้งมีการร่วมมือกันระหว่างผับและบาร์ที่มีชื่อในไทยในการสร้าง Playlist ขึ้นมา เช่น Muse, เทพบาร์ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการเปิดช่องทางในการ barter หรือแลกเปลี่ยนทางธุรกิจกับทาง JOOX ได้ในอนาคต
ความแตกต่างระหว่างผู้ใช้งาน Free และผู้ใช้งานที่จ่ายค่าบริการรายเดือนเพื่อเป็นสมาชิก VIP ได้ ก็คือ ไม่มีโฆษณาคั่นในแต่ละช่วงของการฟังเพลง (ปกติโฆษณาจะมีความยาว 5-10 วินาที), คุณภาพของเสียงที่จะดีกว่า และมี Content ที่สามารถฟังได้เฉพาะกลุ่มที่เป็นสมาชิก VIP เท่านั้น โดยจะมีประมาณ 10-20% จากเพลงทั้งหมดใน JOOX และจะมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า
สำหรับ Business Model นอกจากการคิดเงินค่าบริการสมาชิกที่เป็น VIP ที่เริ่มทำแล้วก็คือ การทำ Branded Playlist หรือ Sponsored Playlist ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างทีม Editor และ Brand โดยมีการตั้งเป็น Theme ของแบรนด์เพื่อสื่อสารแล้วทำการเลือกเพลงให้เหมาะกับ Theme นั้นๆ เช่น Vaseline ใช้ Theme ว่า มัน ก็ตั้งชื่อ Playlist ว่า มันฮิตมาก, มันชิลๆ ซึ่งการทำแบบนี้ก็จะคล้ายกับร้านกาแฟ Starbucks ในต่างประเทศที่เปิดเพลงในร้านและมีการขาย CD เพื่อเป็นตัวกระตุ้นการจำและระลึกถึงแบรนด์ได้โดยอ้อม นอกจาก playlist แล้วก็ยังมีการทำ Banner และ Post Roll Ads ที่จะแสดงให้เห็นหลังชม MV จบ
ช่วงถาม-ตอบ
- ในอนาคตจะมีการสร้าง Playlist ที่เป็นของแต่ละผู้ใช้งานได้ อยู่ในช่วงกำลังพัฒนาอยู่
- Playlist BTS และ MRT ได้รับความนิยมอย่างมากและถูกเปิดมากที่สุดในช่วงวันแรกของการทำงาน โดยการเลือกเพลงทางทีม Editor แจ้งว่า BTS จะเป็นเพลงสว่างๆ สดใส ส่วน MRT ก็จะเป็นเพลงหม่นๆ เสมือนเราอยู่ใต้ดินอยู่
- คำถามเกี่ยวกับการเปิด JOOX ในร้านอาหารว่าสามารถทำได้หรือไม่ คำตอบคือ ร้านนั้นๆ จะต้องมีใบอนุญาตก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วร้านส่วนใหญ่จะมีอยู่แล้ว
- JOOX ไม่สามารถใช้งานจากต่างประเทศได้ ต้อง VPN อย่างเดียว เว้นเสียแต่ว่าดาวน์โหลดเพลงมาไว้ก่อนแล้วจากเมืองไทย
- เรื่องการอัปเดทเพลง โดยปกติแล้วทุกครั้งที่ค่ายมีการปล่อยเพลงใหม่ ทางทีม JOOX ก็จะทราบข่าวจากทางค่ายเช่นกัน ทั้งนี้จะปล่อยให้ฟังช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับทางค่ายจะแจ้งมา
- การทำ Business Model ขาย Branded Pack จะขายเป็น pack รวมทั้ง Mobile และ Desktop
ใครสนใจก็เข้าไปดาวน์โหลด JOOX ที่ App Store และ Google Play และบน desktop ที่ music.sanook.com