Site icon Thumbsup

Kaidee เปิดตัวเลขครึ่งปีแรก เงินสะพัด 30,000 ล้าน เตรียมแตกไลน์เพิ่มหมวด “อสังหา-เกษตร”

คุณทิวา ยอร์ค

“ทิวา ยอร์ค” ซีอีโอ Kaidee (ขายดี) เผยตัวเลขข้อมูลการซื้อ-ขายผ่านแพลตฟอร์ม ครึ่งปีแรกพบเงินสะพัดกว่า 30,000 ล้านบาท พร้อมยอดคนดาวน์โหลดแอปฯ รวมกว่า 11 ล้านคน ด้าน RodKaidee (รถขายดี) ตลาดรถมือสองเติบโตก็เงินสะพัดกว่า 15,560 ล้านบาท 

โดยสถิติที่น่าสนใจจากแพลตฟอร์มของ Kaidee ในครึ่งปีแรก มีดังต่อไปนี้

นอกจากนั้น ในภาพรวมยังพบว่า

RodKaidee เติบโตน่าสนใจ

หันมาที่สถิติของ RodKaidee กันบ้าง คุณทิวา ยอร์ค เผยว่า ในครึ่งปีแรกก็มีรถยนต์ที่ขายได้จำนวน 56,700 คันมูลค่ารวมกว่า 15,560 ล้านบาท ดัง Infographic ด้านล่าง

นอกจากนั้นยังพบการค้นหาในกลุ่มรถเพื่อใช้งานในเชิงพาณิชย์มากขึ้น เช่น รถไถ จึงวางแผนที่จะเปิดตัวเซกชั่น “รถยนต์เพื่อการพาณิชย์” (Commercial Vehicles) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่เติบโตมากขึ้น

เตรียมแยกหมวดอสังหาริมทรัพย์ออกมาเป็นหมวดย่อย

นอกจากตัวเลขในหมวดรถยนต์อย่าง RodKaidee ที่เติบโตได้ด้วยดีแล้ว คุณทิวา ยอร์ค ยังเผยด้วยว่า บริษัทมีแผนจะแยกส่วนของอสังหาริมทรัพย์ออกมาเป็นบริการที่สองรองจาก RodKaidee เนื่องจากเห็นสัญญาณในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ บนแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น

สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัวหมวดอสังหาริมทรัพย์นั้นคาดว่าเป็นปลายปีนี้

ปรับโฉมแอปพลิเคชัน

Kaidee ยังพบด้วยว่า พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปแล้ว เป็นการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนกว่า 80% ดังนั้น จึงมีการปรับเปลี่ยน Interface ของแอปพลิเคชันให้เหมาะกับการใช้งานของคนเจเนอเรชั่นนี้มากขึ้น มีรูปภาพมากขึ้น มีการปรับเมนูเพื่อให้เข้าใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยนำส่วนที่ใช้งานสูงมาวางไว้ด้านล่างของจอ เช่น Chat

“สถิติการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันครึ่งปีแรกพบว่ามีคนดาวน์โหลดแล้วกว่า 1.64 ล้านครั้ง ทำให้ยอดรวมผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Kaidee เพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้านคนแล้วในปัจจุบัน” คุณทิวากล่าว พร้อมกันนี้ยังเผยด้วยว่า Kaidee ได้มีการส่งเสริมให้ผู้ใช้งานใช้แชทของแอปพลิเคชัน Kaidee แทนการออกไปคุยกันบนแพลตฟอร์มอื่น เนื่องจากเคยเกิดกรณีของการฉ้อโกงขึ้น แต่ถ้าหาก Chat บนแพลตฟอร์มของ Kaidee นั้นจะมีระบบอัตโนมัติและพนักงานคอยตรวจจับความผิดปกติ และสามารถบล็อกการพูดคุยไดในกรณีที่พบว่ามีความไม่ชอบมาพากล

ในส่วนของรายได้บริษัทนั้น มาจากโฆษณา 40% ส่วนอีก 60% มาจากบริการเสริม และมีเป้าหมายว่า บริษัทน่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายในปี 2018 หรือต้นปี 2019

จับมือจุฬาฯ ทำวิจัยตลาดผู้บริโภค

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือ Kaidee ได้ร่วมมือกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการทำวิจัยเรื่องตลาดผู้บริโภคในประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการศึกษาของนิสิตและนักศึกษาไทย รวมทั้งได้ทำงานวิจัยในเรื่องการใช้ Machine Learning หรือการเรียนรู้ด้วยเครื่อง ในตลาดซื้อ-ขายของออนไลน์กับเทเลนอร์ กรุ้ป จากนอร์เวย์อีกด้วย

“นอกจากนั้น เรายังมีแผนที่จะยกตลาดออนไลน์ของเรามาสู่ออฟไลน์ ให้ผู้ซื้อ-ผู้ขายมาเจอกัน เพื่อพบปะ พูดคุย ซื้อขาย เป็นตลาดสุดสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดที่จะตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยทุกเพศ ทุกวัย โดยครั้งแรกนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 2 – 3 กันยายนนี้ ณ ลานหน้าห้างมาบุญครอง โดยจะมีผู้ค้าที่ได้รับการคัดเลือกจากแพลตฟอร์มประมาณ 60 รายเข้าร่วม และมีแผนที่จะยกตลาดนี้ไปพบปะกับพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ” คุณทิวา กล่าวเสริม

ทั้งนี้การยกพลจากโลกออนไลน์สู่โลกออฟไลน์นั้น คุณทิวาชี้ว่า เป็นเทรนด์ที่แบรนด์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลกเริ่มทำกันทั้งสิ้น เช่น Amazon ฯลฯ ก่อนจะทิ้งท้ายที่อีกหนึ่งเทรนด์ที่ Kaidee ตั้งใจจะทำเพิ่มเติมในปีนี้ก็คือการแยกหมวดการขายสินค้า “เกษตร” ออกมา โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้อย่างแน่นอน

บทสรุปที่น่าสนใจจากงานแถลงผลประกอบการครั้งนี้อาจเป็นการเผยให้เห็นถึงตลาด E-Commerce ที่ได้รับอานิสงค์อย่างจังจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคหันมามองหาสินค้าออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการที่ Kaidee จะแตกไลน์ตลาดออกมาอีกหลายหมวดทั้ง อสังหาริมทรัพย์และสินค้าเกษตรได้นั้น ย่อมแสดงให้เห็นถึงตัวเลขการใช้งานที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว