กาเกา ทอล์ค (Kakao Talk) แอปแชทอันดับ 1 จากประเทศเกาหลี เปิดตัวในเมืองไทยแล้วอย่างเป็นทางการ หลังจากเริ่มทดลองตลาดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และมีลูกค้าที่สนใจและใช้งานในเมืองไทยมากกว่า 3.5 ล้านราย ด้วยฟังก์ชันที่แตกต่างจากแอปอื่นๆ ในท้องตลาด พร้อมสติ๊กเกอร์ ดุ๊กดิ๊กพูดได้ กับวลีเด็ด “แชตคันๆ มันส์ต้องเกา” พร้อมรุกตลาดในไทยอย่างเต็มตัวในปี 2015 นี้
หลังจากที่ Daum และ Kakao Talk ได้รวมตัวกันผลึกกำลังลุยธุรกิจด้านออนไลน์ ก็เป็นช่วงเวลาที่จะเริ่มขยายฐานผู้ใช้งานจากเดิมที่มีอยู่ในเกาหลีใต้ ที่มีผู้ใช้งานเป็นอันดับ 1 จนถึงตอนนี้ และนี่ก็คือโอกาสที่ดีในการเจาะตลาดในประเทศไทย โดยคุณจอห์น ปาร์ค, หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลยุทธ์ตลาดโกลบอล บริษัท Daum Kakao จำกัดได้บอกว่า เขามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำ Kakao Talk เข้ามาเปิดให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการ โดยได้รับการตอบรับที่ดียิ่งจากคนไทย
สำหรับ Kakao Talk เปิดตัวครั้งแรกในประเทศเกาหลีในปี พ.ศ. 2553 โดยเริ่มต้นจากบริการส่งข้อความฟรี และพัฒนาสู่แอพพลิเคชั่นที่มีแพล็ตฟอร์มเชื่อมต่อกับโซเชียล (Mobile Social Platform) เต็มรูปแบบ ทั้งคอนเทนต์, บริการหลากหลาย อาทิ เกม, เพลง, คอมเมิร์ส, โฆษณา, ฯลฯ ซึ่งพัฒนาการดังกล่าวมีส่วนสำคัญยิ่งกับการเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมเกาหลี เพราะนอกจากจะเป็นที่นิยมของประชาชนแล้ว ยังสามารถสร้างรูปแบบของระบบนิเวศน์แห่งโลกสื่อสาร (Mobile Ecosystem) ทำให้เกิดการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก นับเป็นแอพแชตอันดับ 1 ของเกาหลี ที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากกว่า 93% ของประเทศเกาหลีเลือกใช้แอพนี้ในชีวิตประจำวัน
ปัจจุบัน “กาเกา ทอล์ค” มีผู้ใช้บริการทั่วโลกใน 196 ประเทศถึงกว่า 167 ล้านราย ใน 15 ภาษา ทั้งนี้ในแต่ละวันมีการสื่อสารทั้งในรูปแบบของข้อความ, รูป, วีดีโอ, เสียง ถึงกันมากกว่า 7,100 ล้านครั้งต่อวัน
สาเหตุที่ทำให้ทาง Kakao เข้ามาทำการตลาดในเมืองไทย ทางคุณจอห์น ปาร์ค ได้ให้เหตุผลว่า ประเทศไทยมีความพร้อมเป็นอย่างมากในการเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบสนองที่รวดเร็วมากๆ ต่อแอปพลิเคชันแชทและโซเชียลในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยมีเหตุผลเพิ่มเติมคือ
- ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก
- Kakao Talk เหมาะกับ Lifestyle และความสนุกสนาน ที่คนไทยมีอยู่
- ประเทศไทยเป็นแหล่งของแฟนๆ สาวกของศิลปิน K-Pop, ซีรีย์เกาหลี, การท่องเที่ยว และอื่นๆ
“สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของ “กาเกา ทอล์ค” ในประเทศไทยนั้น เราได้เริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยแนวคิด “แชตคันๆ มันส์ต้องเกา” และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ กับมุกอยากเมาท์ อยากแชต ต้อง “เกา” ที่ต้องการสร้างให้เป็นวลีติดปากคอแชตชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ เด็ก และ วัยรุ่น ที่ชื่นชอบความสนุกสนาน ชอบพูด ชอบคุย ชอบแชร์/โชว์ ไลฟ์สไตล์กับโลกโซเชียลในแบบที่สนุกและมีสีสันยิ่งกว่า แถมไม่ซ้ำกับใคร”
เป้าหมายสำหรับปีหน้าของ Kakao Talk ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้ใช้งานในประเทศไทย 10 ล้านราย โดยกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้งานอยู่ในช่วงอายุอยู่ที่ 15-24 ปี
ในช่วงการแถลงข่าวมีการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ถามคำถาม ซึ่งมีคำถามน่าสนใจหลายอย่าง
- KakaoTalk ไม่มีนโยบายในการเข้าไปดูข้
อความส่วนตัวในการแชท เนื่องจากเราห่วงเรื่ องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตั ว - การที่ KakaoTalk เข้ามาบุกตลาดในเมืองไทยช้า ทั้งๆ ที่มีการให้บริการแอปมาหลายปีแล้ว เพราะทาง Kakao Talk ต้องการทำความเข้าใจพฤติกรรมของคนไทยก่อนที่จะเริ่มทำตลาด ซึ่งทำให้ไม่ได้มองว่า KKT เข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการช้า
- ตอนนี้ Kakao บุกตลาดอยู่ 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนิเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย
- เปิดหา Local Partner ในไทยอยู่ ส่วนในเกาหลีมีมากกว่า 1,000 ราย
- สิ่งที่ทาง Kakao Talk เน้นอย่างมากในการเข้ามาประเทศไทยคือ คุณภาพของบริการที่ต้องเสถียรและ content ที่มีคุณภาพ
- Business Model ในตอนนี้ยังไม่มีแผน แต่เน้นการ recruit จำนวนคนเข้ามาก่อน
- การตั้งสำนักงานในประเทศไทย มีความเป็นไปได้สูง โดยต้องขอดูสถานการณ์ในปีหน้าก่อน
ทั้งนี้ thumbsup มีบทความ Kakao Talk มาแนะนำแล้ว สามารถเข้าไปอ่านได้ครับที่นี่ 10 สิ่งน่าสนใจบน KakaoTalk แอปพลิเคชันแชทสุดฮิตจากเกาหลี