เรียกว่าเป็นบริการที่ล้ำหน้าทีเดียวสำหรับธนาคารกสิกรไทยที่เปิดตัวเทคโนโลยี Beacon ที่ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน K Plus ช่วยผู้บกพร่องทางการมองเห็นให้สามารถทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือได้เป็นครั้งแรก พร้อมเปิดรับ 300 อาสาสมัครลองใช้งาน ก่อนเปิดใช้จริงปีหน้า
โดย K PLUS Beacon นั้นเป็นแอปพลิเคชันโมบาย แบงกิ้ง ที่พัฒนาต่อยอดจากผลงานฟินเทคที่คว้า 2 รางวัลระดับโลก มาสู่การเป็นเครื่องมือช่วยผู้บกพร่องทางการมองเห็น (Visually Impaired) ให้ทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือได้เป็นครั้งแรก
คุณศุภนีวรรณ จูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การพัฒนาแอปพลิเคชัน K PLUS Beacon เป็นความมุ่งมั่นของธนาคารกสิกรไทยที่ต้องการส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง (Financial Inclusion) โดยธนาคารกสิกรไทย ได้ให้การสนับสนุนฟินเทคบีคอน อินเตอร์เฟส เพื่อร่วมกันพัฒนาแอปพลิเคชัน K PLUS Beacon เพื่อให้ผู้ใช้งานที่มีข้อจำกัดในการมองเห็น สามารถใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้สะดวก
“ที่ผ่านมา ผู้บกพร่องทางการมองเห็นมีข้อจำกัดในการทำธุรกรรมการเงินผ่านสมาร์ทโฟน เนื่องจากหน้าจอแบนเรียบ ไม่มีปุ่ม จึงไม่สามารถใช้มือสัมผัสหน้าจอเพื่อกดปุ่มได้ โดยแอปฯ K PLUS Beacon เป็นการผนวกความสามารถในการทำธุรกรรมทางการเงินเข้ากับ บีคอน อินเตอร์เฟส จึงทำให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนโดยไม่ต้องมอง”
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของแอปพลิเคชัน K PLUS Beacon ได้แก่ คนตาบอด (The Blind) ผู้มีสายตาเลือนราง (The Low Vision) และผู้สูงอายุ (The Elderly) รวมไปถึงคนทั่วไป ให้สามารถทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วยตนเองอย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องมองหน้าจอ และมีความเป็นส่วนตัว สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยไม่ต่างจากแอปพลิเคชัน K PLUS
ในช่วงแรก K PLUS Beacon จะเปิดให้ทดลองใช้งานกับอาสาสมัครจาก 4 กลุ่ม ได้แก่ คนตาบอด ผู้มีสายตาเลือนราง ผู้สูงวัย และบุคคลทั่วไป จำนวน 300 คน ผู้สนใจที่จะเป็นผู้บุกเบิกและทดลองใช้งานสามารถแจ้งความจำนงได้ตั้งแต่วันที่ 16 – 24 พฤศจิกายน 2560 ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ K-Contact Center โทร 02-8888888 กด 866 เว็บไซต์ธนาคารที่ www.kasikornbank.com/KPLUS-Beacon และ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
โดยผู้เข้าร่วมในการทดลองใช้จะได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ซึ่งข้อมูลที่ได้จะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในการนำไปพัฒนาและปรับปรุงทำให้แอปฯ K PLUS Beacon มีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทำธุรกรรมการเงินในชีวิตประจำวันของผู้บกพร่องทางการเห็นที่มีประมาณ 20% ในปี 2564 เป็นไปด้วยความสะดวก และปลอดภัย ก่อนนำไปสู่การใช้งานจริงในปี 2561 ส่วนตัวเลขผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน K Plus นั้นคาดว่าจะมีผู้ใช้งานมากถึง 8 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้