ในยุคที่เราใช้สมาร์ทโฟนในการสื่อสารมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าบุตรหลานของคุณ ที่อนาคตต้องใช้งานออนไลน์ก็ย่อมมีความน่าเป็นห่วงเช่นกัน ทาง Kaspersky ได้แชร์บทความเกี่ยวกับการป้องกันภัยคุกคามของผู้ปกครองและบุตรหลานของพวกเขาได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ
ผู้ปกครองจำนวน 1 ใน 3 ที่บุตรหลานของพวกเขาอยู่ในวัยเริ่มต้นเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต ได้เลือกที่จะจำกัดเวลาการใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันอันตรายจากการท่องโลกออนไลน์ของเด็กๆ แต่ก็ยังมีวิธีอื่นที่ผู้ปกครอง เลือกที่จะนำมาใช้เพื่อลดความเสี่ยง และเปิดทางให้เด็กๆ ได้มีโอกาสใช้ประโยชน์จากสิ่งดีๆ ที่โลกดิจิทัลมีให้เลือกสรรได้
การที่คนรุ่นใหม่พึ่งพาการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมากนั้น ทำให้ผู้ปกครองกว่า 33% ที่เข้าร่วมการสำรวจข้อมูล กังวลใจอย่างมากว่าลูกหลานของตนจะเป็นคนติดเน็ต ซึ่งสอดประสานกับตัวเลขที่ Kaspersky Lab ร่วมกับ B2B International ได้ทำการสำรวจข้อมูลไว้ พบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 12% ติดการใช้อินเทอร์เน็ต และผู้ปกครอง 36% กังวลการดูเนื้อหาไม่เหมาะสม และอีก 32% กังวลเรื่องการติดต่อกับคนแปลกหน้า ดูเหมือนว่าการที่เยาวชนติดโลกออนไลน์ได้กลายมาเป็นข้อกังวลอันใหญ่หลวงของผู้ปกครองยุคนี้ไปเสียแล้ว
ผู้ปกครองจำนวน 51% ที่รู้สึกถึงการคุกคามของภัยทางออนไลน์ต่อบุตรหลานของพวกเขา เด็กๆ มักใช้เวลาส่วนมากในโลกออนไลน์ จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะต้องสร้างเกราะป้องกันเวลาที่พวกเขาออนไลน์ ทำให้ผู้ปกครองกว่า 33% เลือกที่จะใช้วิธีตั้งกฎเกณฑ์เรื่องเวลาที่เด็กๆ สามารถเล่นอินเทอร์เน็ตได้
อย่างไรก็ตาม การจำกัดเวลาก็มิใช่เงื่อนไขด้านความปลอดภัยของเด็กๆ เสียทีเดียว ในช่วงเวลา 12 เดือน เยาวชน 44% เผชิญภัยคุกคามทางออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้ง และเด็ก 12% ดูเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับวัย และ 10% ได้เข้าถึงซอฟต์แวร์ไวรัสอันตราย
ดังนั้น ทางเลือกสำหรับผู้ปกครองคือ ควรสนับสนุนบุตรหลานของตนให้มีทางเลือกอื่นๆ เช่น การศึกษา การเรียนรู้ด้านต่างๆ พบว่า ผู้ปกครองจำนวนกว่า 37% ใช้วิธีพูดคุยกับเด็กๆ เป็นประจำ เพื่อจะได้สอนความรู้เกี่ยวกับอันตรายที่มาทางออนไลน์ และผู้ปกครอง 31% พยายามที่จะอยู่กับเด็กๆ ด้วยในเวลาที่พวกเขาออนไลน์ เพื่อจะได้มีโอกาสชี้ให้เห็นถึงรูปแบบข้อมูลอันตราย สิ่งล่อแหลมยั่วยุต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นมา
ดมิทรี อะเลชิน รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ แคสเปอร์สกี้ แลป ให้ความเห็นว่า พ่อแม่ผู้ปกครองต่างต้องการปกป้องลูกหลายให้ปลอดภัย แต่การกีดกันการเข้าสู่โลกออนไลน์นั้นก็ไม่น่าที่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ในทางกลับกัน การให้การศึกษา สร้างความเข้าใจ สื่อสารข้อมูลต่างๆ น่าที่จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าเด็กๆ ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างรู้เท่าทันและปลอดภัยในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ การลงซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเพื่อการป้องกันอีกชั้นก็ย่อมเป็นสิ่งที่พึงกระทำเช่นกัน การจำกัดการท่องโลกออนไลน์เป็นส่วนสำคัญ หากคุณอยู่กับพวกเขาตลอดเวลา แต่วิธีจะใช้ไม่ได้เลยถ้าเด็กๆ อยู่คนเดียว แต่เทคโนโลยีสามารถเป็นผู้ช่วยผู้ปกครองในการลดความเสี่ยงได้ เด็กๆ ยังได้ท่องโลกออนไลน์ สรรหาข้อมูล ความรู้ต่างๆ ที่เกิดประโยชน์ได้อย่างปลอดภัย และมีพัฒนาการทักษะดิจิทัลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องภัยคุกคามทางออนไลน์
หากสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลวิจัยดังกล่าวได้ ที่นี่