KBank นำร่องใช้ Face Recognition ในการเปิดบัญชีเงินฝาก เพิ่มความแม่นยำให้กับการพิสูจน์ตัวตนของลูกค้า พร้อมเตรียมเชื่อมข้อมูลข้ามธนาคาร สร้างมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัย ตั้งเป้าให้บริการเต็มรูปแบบไตรมาส 3 ปีนี้
ก่อนหน้านี้หลายธนาคารจะเจอกับปัญหาการตรวจสอบตัวบุคคลที่มาเปิดบัญชีเงินฝาก โดยทำได้เพียงการขอดูบัตรประชาชนแล้วเทียบกับบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ (Human Error) มาแล้วหลายครั้ง เช่น สามารถปลอมตัวมาเปิดบัญชี โดยรอดพ้นจากการตรวจสอบ แล้วบัญชีดังกล่าวไปใช้ในทางอาชญากรรมได้สำเร็จ เป็นต้น
ล่าสุดธนาคารกสิกรไทย (KBank) นำเทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้า (Face Recognition) ช่วยพิสูจน์ตัวตนลูกค้าที่มาใช้บริการที่สาขาของธนาคาร โดยนำร่องมาใช้กับบริการเปิดบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งขั้นตอนและเอกสารที่ใช้ในการเปิดบัญชียังเหมือนเดิม แต่พัฒนาและเพิ่มอีกขั้นตอนเข้ามา คือ พนักงานสาขาจะถ่ายภาพใบหน้าลูกค้าที่ขอเปิดบัญชี จากนั้นจะใช้เทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้า ตรวจหาความเหมือนหรือคล้ายระหว่างภาพถ่ายกับรูปภาพบนบัตรประชาชนของลูกค้า หลังจากนั้นพนักงานจะนำข้อมูลผลการเปรียบเทียบมาประกอบการเปิดบัญชีให้แก่ลูกค้า
“ล่าสุดธนาคารได้เริ่มมีการนำเทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้ามาช่วยการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าที่สาขา”นายศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าว “เพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยและความแม่นยำในการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าของพนักงานสาขา ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการสวมตัวตนเพื่อเปิดบัญชีของอาชญากร”
ล่าสุดบริการดังกล่าวอยู่ในโครงการ Regulatory Sandbox กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 จากผลการทดสอบพบว่า ระบบมีการตรวจสอบที่แม่นยำเป็นที่น่าพอใจ มีเป้าหมายการพัฒนา คือ ธนาคารมีกระบวนการใช้งานระบบได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ มีประสิทธิภาพ จนสามารถกำหนดให้ขั้นตอนการถ่ายภาพและพิสูจน์ตัวตนด้วยเทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้าเป็นมาตรฐานในการทำธุรกรรม
นอกจากนี้ ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ KBank ยังเตรียมต่อยอดเชื่อมโยงข้อมูลข้ามธนาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมที่ได้ง่ายยิ่งขึ้น สามารถดำเนินการผ่านช่องทางดิจิทัลแทนการเดินทางมาสาขาได้ ทุกที่ทุกเวลา ครอบคลุมธุรกรรมสำคัญ เช่น การขอสินเชื่อ และการเปิดบัญชีใหม่ข้ามธนาคาร ซึ่งมี National Digital ID เป็นหน่วยงานกลางที่คอยดูแลให้การส่งข้อมูลระหว่างกันเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ
ในอนาคตยังมีแผนจะผลักดันให้เกิดการต่อยอดกับภาครัฐ ช่วยให้ลูกค้าที่ติดต่อรับบริการจากทางราชการสามารถยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีนี้ได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ทั้งธนาคารกรุงศรีฯ (1) (2) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) (1) ก็มีการเปิดตัวระบบ e-KYC และ Face Recognition เพื่อใช้ในการเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารและที่สาขาของธนาคารมาได้สักพักหนึ่งแล้ว โดยระบบดังกล่าวยังอยู่ใน Regulatory Sandbox ของ ธปท. อยู่เช่นกัน