ด้วยพฤติกรรมและความนิยมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการความรวดเร็ว และความแม่นยำประกอบกับความนิยมในการใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่มากขึ้น ธนาคารกสิกรไทยในฐานะที่เป็นผู้นำแห่ง Digital Banking จึงได้เปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ “Tomorrow Comes Today”
จากแคมเปญที่ประสบความสำเร็จมากมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัวสติ๊กเกอร์ Brown & Cony จาก KBank เมื่อปีก่อนยิ่งตอกย้ำให้เห็นความนิยมในการสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น โดยสติ๊กเกอร์ชุดดังกล่าวนั้นมียอดกาวน์โหลดมากถึง 8 ล้านครั้งเลยทีเดียว
โดยคุณธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ได้เผยว่าถึงตัวเลขยอดเงินที่หมุนเวียนผ่านการทำธุรกกรรมแบบ Mobile Banking เมื่อปีที่ผ่านมาว่ามีมากถึง 2 ล้านล้านบาท โดยผู้ใช้งานส่วนมากจะทำใช้ Mobile Banking เพื่อโอนเงิน
นอกจากนี้คุณธีรนันท์ยังได้เผยเทรนด์การใช้สื่อดิจิทัลที่กำลังมาแรงทั่วโลก ได้แก่ 1. การใช้งานสื่อออนไลน์ 2. สมาร์ทโฟนมีบทบาทมากขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวัน 3. ความนิยมการใช้ Cloud เพื่อทำให้ธุรกิจบริหารต้นทุน และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการบริการแบบ Personalized ได้ 4. ปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่มีแนวโน้มจะถูกแบ่งปันผ่านสื่โซเชียลเน็ตเวิร์กหรือสื่อออนไลน์อื่นๆ มากขึ้น ธนาคารกสิกรจะใช้ข้อมูลเหล่านั้นไปประมวลเพื่อวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภค และช่วยต่อยอดให้ธุรกิจในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
และเพื่อตอบสนองความต้องการของผุ้บริโภคในปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยจึงเปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ “Tomorrow Comes Today” หรือ “เรานำวันพรุ่งนี้ มาให้คุณก่อนใคร” เป็นการแสดงจุดยืนว่าธนาคารกสิกรไทยจะนำเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าใครมาให้ผู้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการตอบย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยแนวคิด K Funding The Future อย่างที่ธนาคารกสิกรได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนโครงการ Imagine Cup Thailand กับ Microsoft มาได้ 5 ปีแล้ว
เพื่อผลักดันให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารที่รองรับสื่อดิจิทัลแบบเต็มตัว ธนาคารกสิกรไทยได้จัดตั้งฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมกว่า 100 คนเพื่อวางแผนและพัฒนาบริการด้านดิจิทัล และได้กำหนดแนวทางการพัฒนา Digital Banking เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในช่วงเวลา 3 ปีหน้า ว่าต้องรวดเร็ส และเน้นการให้บริการ Mobile Banking มากขึ้น ที่คาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในช่องทางการทำธุรกรรมที่จะเป็นที่นิยมในอนาคตอันใกล้
นอกจากการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานให้ Mobile Banking สามารถทำธุรกรรมได้แบบเสร็จสรรพ ธนาคารกสิกรไทยยังได้ให้ความสำคัญกับการทำธุรกรรม โดยมีทีมคอยรับเรื่องร้องเรียนตลอด 24 ชม. อีกทั้งยังได้มีการใช้เทคโนโลยี Tripple Lock กับ K-Mobile Banking Plus ซึ่งจะสามารถล็อคการใช้งานให้ใช้ได้จากสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเท่านั้น ล็อคให้ใช้งานได้กับเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ได้เบอร์เดียวเท่านั้น และสามารถตั้งค่าการเข้าถึงด้วยรหัส 6 หลักได้จากผู้ใช้งาน
นอกจากนี้คุณธีรนันท์ ยังได้เผยตัวเลขส่วนแบ่งการตลาด Digital Banking ว่าเมื่อปี 2556 ที่ผ่าน ธนาคารกสิกรไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 1 โดยมีผู้ใช้งาน K-Mobile Banking และ K-Cyber Banking รวม 2.59 ล้านราย หรือคิดเป็น 28% จากส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งหมด โดยในจำนวนผู้ใช้งานนั้นเติบโตจากปี 2555 มากถึง 51%