รัฐบาลประเทศเกาหลีใต้เตรียมออกกฎหมาย “ห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องใดเรื่องหนึ่งเกิน 50% ของจำนวนจอหนังที่มีอยู่ทั่วประเทศ” ระบุป้องกันการผูกขาดหน้าจอด้วย “หนังที่ได้รับความนิยม” (blockbuster film) ซึ่งอาจทำให้เกิดเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
เมื่อวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่าจะมีการแก้ไขกฎหมาย “Promotion of the Motion Pictures and Video Products” ซึ่งหากกฎหมายนี้ผ่าน ข้อห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องใดเรื่องหนึ่งเกิน 50% ของจำนวนจอหนังที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยจะควบคุมการฉายของโรงภาพยนตร์ในช่วงเวลา 13.00-23.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีคนดูหนังมากที่สุด
กระทรวงวัฒนธรรมฯ ของเกาหลีใต้ พบว่าระหว่างปี 2559-2561 มี 12 ครั้งที่เกิดการฉายหนังบางเรื่องมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนโรงที่มีอยู่ (เพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงปี 2556-2558) เช่น เมื่อเดือนเมษายน 2561 ภาพยนตร์เรื่อง Avengers: Endgame เปิดฉาย 2,835 จอ หรือคิดเป็น 90% ของจำนวนจอทั่วประเทศที่มีอยู่ 3,128 จอ
ปัจจุบัน โรงภาพยนตร์มากกว่า 90% ของเกาหลีใต้ 3 บริษัทที่เป็นเจ้าของอยู่ คือ CJ CGV, Lotte Cinema และ Megabox ซึ่ง 3 บริษัทเหล่านี้ยังทำธุรกิจจัดจำหน่ายภาพยนตร์เองด้วย และยกโรงภาพยนตร์ให้กับภาพยนตร์ของตัวเอง รวมถึงยังมีการ “ยกโรง” ให้กับภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมสูง (Blockbuster film) จากฮอลลีวู้ด มากกว่าภาพยนตร์จากผู้ผลิตอิสระอื่นๆ
ซึ่ง “การผูกขาดการฉายภาพยนตร์” เป็นสิ่งที่วงการหนังเกาหลีใต้กังวลมาพักใหญ่แล้ว
นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมฯ ยังเตรียมตั้ง ASEAN-Republic of Korea Film Organization ศูนย์กลางสำหรับสนับสนุนการทำงานร่วมงานระหว่างอุตสาหกรรมภาพยนต์ของแต่ละประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเตรียมตั้งกองทุนสำหรับสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์สำหรับการผลิตขนาดเล็ก-กลางอีกด้วย
ที่มา: Variety