จุดเริ่มต้นกรุงศรี “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน”

“ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” คำมั่นสัญญาใหม่จากกรุงศรี เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาไปทำในเรื่องสำคัญของชีวิต แนวคิดในการขับเคลื่อนองค์กรของธนาคารกรุงศรีและบริษัทในเครือ ที่ปรับเพื่อตอบสนองผู้บริโภคและบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลง

วันนี้ thumbsup จะชวนมาย้อนดูแนวคิดแบรนด์กรุงศรีก่อนจะมาถึง “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน”

แนวคิด “เรื่องเงิน เรื่องง่าย”

นับตั้งแต่ปี 2554 กรุงศรีได้เริ่มดำเนินธุรกิจบนแนวคิด “เรื่องเงิน เรื่องง่าย” หรือ “Make Life Simple” มาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญต่อ “ลูกค้า” เปลี่ยนทุกเรื่องการเงินที่ยากซับซ้อน ให้เป็นเรื่องง่าย ด้วยแนวคิดนี้ กรุงศรีได้เป็นหนึ่งในผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ภาคการเงินของไทย และไม่ว่าบริบททางสังคม และเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปเช่นไร กรุงศรีตระหนักว่า “ความง่าย” เป็นสิ่งที่จำเป็น และเป็นสิ่งที่ลูกค้ายังคงมองหาเสมอมา

การปรับตัวตามสถานการณ์ตลาด

ที่ผ่านมากรุงศรีไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนา ให้ลูกค้าได้รับความง่าย ความสะดวกสบายและมีชีวิตที่ง่ายขึ้น ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินต่างๆของกรุงศรี ไม่ว่าจะโอน จ่าย ถอนเงินสด ทำธุรกรรมผ่านโมบายแอป ออนไลน์ หรือที่สาขา ลูกค้าจะใช้บริการช่องทางไหน กรุงศรีก็พร้อมที่จะคอยช่วยเหลือ หากย้อนกลับไปดู ด้วยบริบทที่ไปเปลี่ยนไปความง่ายของกรุงศรีปรับต่อตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

เมื่อปี 2018 หากยังจำกันได้ในตอนนั้น บริบทโลกการเงินในประเทศไทยตื่นตัวกับเรื่องสังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society มาก โดย Visa เคยรายงานว่า ปี 2019 สี่ในห้าของคนไทย หรือ 78 เปอร์เซ็นต์ พยายามใช้เงินผ่านช่องทางดิจิทัลเพียงอย่างเดียวในชีวิตประจำวัน ซึ่งสูงขึ้นกว่าปี 2018 ที่มีเพียง 50% เท่านั้น

ประกอบกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะโมบายแบงก์กิ้งเติบโตแบบก้าวกระโดดและแข่งขันกันสูงมาก กรุงศรียังคงฟังเสียงลูกค้า ตามแนวคิดในการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง กล้าที่จะออกมาพูดว่า ทุกคนมีสิทธิ์เลือกไลฟ์สไตล์ในแบบที่ใช่ด้วยตัวเอง และเลือกใช้บริการต่างๆ  ในแบบที่ตัวเองสะดวกและง่าย โดยออกมาสื่อสารสิ่งเหล่านี้ผ่านแคมเปญ #กรุงศรีอยู่นี่นะ

เชื่อว่าจุดเริ่มต้นของ Human-centric innovation ของกรุงศรี จึงเริ่มต้นจากจุดนี้เอง หากย้อนกลับไปตอนนั้น กรุงศรีก็พัฒนาระบบและเทคโนโลยีต่างๆ คู่ขนานไปกับรายอื่นๆ ในตลาด แต่ที่สิ่งฉีกออกมาคือ ยังคงชูความหลากหลายทั้งเรื่องช่องทางและผลิตภัณฑ์

จากนั้น 1 ปีถัดมา กรุงศรีก็มีแคมเปญใหม่อีกครั้ง ยังคงเกาะแน่นกับ DNA เดิม #ทุกเรื่องยากง่ายได้ เพราะเชื่อมั่นใน DNA “ความง่าย” ที่บ่มเพาะมายาวนานในองค์กร แต่นำเสนอออกมาในมุมใหม่เน้นผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นตัวชูโรงในเวลานั้น และเล่าถึง “ความง่าย” ของลูกค้าที่แต่ละคน แต่ละวัย และแต่ละช่วงเวลา ก็สะดวกในแบบที่ต่างกัน

พอเข้าสู่ ปี 2020 สถานการณ์โควิด-19 เข้ามา มองย้อนกลับไปในเวลาที่ทุกธุรกิจทั่วโลกระส่ำระสาย ต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคที่ไม่มีใครคาดคิด บทบาทของสถาบันการเงินไทยในตอนนั้นต้องบอกว่าคือกลไกสำคัญที่ต้องเข้ามาช่วยประคับประคองลูกค้า

โดยเวลานั้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาคบริการได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส และนโยบายจำกัดการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ สำหรับธุรกิจอื่นๆ เริ่มกลับมาเปิดบริการตามมาตรการผ่อนคลายของภาครัฐ แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังไม่กลับมาเต็มที่จนกว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดและผลิตวัคซีนได้

กรุงศรี ในฐานะสถาบันการเงินอันดับ 5 ของไทย และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำหน้าที่ดูแลและช่วยเหลือลูกค้าต่อเนื่อง พร้อมออกแคมเปญ #ความห่วงไม่เคยห่าง เพื่อส่งต่อความห่วงใยไปยังลูกค้าทุกกลุ่ม ผ่านมาตรการความช่วยเหลือต่าง ๆ รวมถึงการลงพื้นที่ไปช่วยเหลือและแบ่งปัน และที่สำคัญคือการให้อาวุธทางการเงิน หรือ Financial Literacy ให้ความรู้ทางการเงินผ่านบทความที่ย่อยเรื่องยากให้อ่านเข้าใจง่ายและไปใช้ต่อได้จริงนับพันชิ้นถูกผลิต ซึ่งต่อมาถูกพัฒนานำเสนอในรูปแบบรายการอีกด้วย นั้นก็คือ รายการ “Krungsri The Coach” คิดไม่ออก เดี๋ยวตอบให้ ที่จะคอยหยิบปัญหา tips ต่างๆทางการเงินมาชวนคุยและแชร์มุมมองกัน

มุ่งสู่การเป็นสถาบันการเงินที่ช่วยให้ “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน”

เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2023  สิ่งที่กรุงศรีเห็นคือ โลกที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งพฤติกรรมของคนก็เปลี่ยน ชีวิตที่ห้อมล้อมด้วยเทคโนโลยีมากมาย ทำให้เกิดคำถามขึ้น ในเรื่องของ “ความง่าย” ยังเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้บริโภคอยู่หรือเปล่า? คำถามง่ายๆ แต่ย้อนให้กรุงศรีได้เวลาตรวจสอบสุขภาพของแบรนด์ รวมทั้งคิดถึงบทบาทและหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง

สิ่งที่ค้นพบจากทั้งวิจัยและเสียงจากลูกค้าคือ ชีวิตไม่ง่ายอีกต่อไป โลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ข้อมูล ข่าวสาร และตัวเลือกมากมาย ทำให้ทุกวันของการใช้ชีวิตไม่ง่ายเช่นเดิม เพราะ “ความง่าย” เป็นสิ่งที่คนทุกวันนี้ต้องการและมองหามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมในอดีต นั่นจึงเป็นที่มาและจุดเริ่มต้นของ “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” 

อย่างไรก็ตาม ทางกรุงศรีมองว่านี่ไม่ใช่แค่แคมเปญระยะสั้น แต่จะเป็นการเติม DNA ของความง่ายที่บ่มเพาะมายาวนานให้เข้มข้นขึ้น “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” จะเข้ามาแทนที่ “เรื่องเงิน เรื่องง่าย” เพราะกรุงศรีไม่ได้มองแค่เรื่องธุรกรรมการเงินของลูกค้า แต่มองไปที่การใช้ชีวิตในทุกๆ วันของลูกค้า รวมทั้งมองหาแง่มุมที่จะผลักดันศักยภาพให้ดีมากขึ้น เพื่อเข้าไปเสริมให้ชีวิตของลูกค้าเป็นเรื่องง่ายได้ในทุกๆ วัน

ติดตาม DNA ของความง่ายที่เข้มข้นและหนักแน่นขึ้น ว่านับจากนี้ จะมีโซลูชันอะไรออกมาให้ตื่นเต้นบ้าง รวมทั้งความเป็น Human-centric innovation ของกรุงศรี จะเข้าไปแทรกซึมในชีวิตของลูกค้าอย่างไรบ้าง ติดตามกันได้กับ “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน”  https://bit.ly/41LccZa

#กรุงศรี #ชีวิตง่ายได้ทุกวัน #krungsri