L’Oreal รู้ดีว่าคนรักสวยรักงามต้องการอะไร จึงลงมือสร้างแหล่งรวมข้อมูลความงามที่ไม่ติดกับแบรนด์หรือ Unbranded Content Hub ซึ่งตอบคำถามสารพันปัญหาให้แฟนบิวตี้ได้รับข้อมูลที่ดีและจริงใจที่สุด แม้ว่าข้อมูลนั้นจะเกี่ยวข้องกับแบรนด์สินค้าของคู่แข่งก็ตาม ล่าสุดผู้บริหาร L’Oreal ออกมาเปิดเผยความสำเร็จของเว็บไซต์นี้ และยอมรับว่าเป็นความสำเร็จที่เกมคอนเทนต์มาร์เก็ตติงทั่วไปไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ในเวลา 1 ปี
Unbranded Content Hub ที่ L’Oreal สร้างขึ้นเพื่อเอาใจชุมชนคนรักความงามมีชื่อว่า Fab.com ความเคลื่อนไหวนี้สวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกที่ return on investment มีความสำคัญยิ่ง เพราะการลงทุนของ L’Oreal ครั้งนี้ไม่มีการแอบสร้างแบรนก์หรือโฆษณาขายสินค้าใดๆ แถมยังมีการให้ข้อมูลสินค้าคู่แข่งอย่างเปิดกว้าง
An Verhulst-Santos ประธาน L’Oreal ให้ข้อมูลว่า Fab.com ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อโฆษณาขายสินค้า แต่เป็นการสร้าง “quality engagement” หรือการผูกติดผู้บริโภคแบบแน่นหนึบ ซึ่งไม่เพียงแต่ในแง่ของสินค้า แต่เว็บไซต์นี้จะเป็นแหล่งรวมประสบการณ์ งานฝีมือ รวมถึงหากหลายเรื่องราวที่ชาวออนไลน์ให้ความสนใจ
L’Oreal ถือเป็นบริษัทที่เป็นผู้ทำการตลาดหรือ marketer รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เนื่องจากมีงบประมาณรวมมากกว่า 5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (ตามข้อมูลจาก Ad Age Datacenter) สำหรับ Fab ชื่อของเว็บไซต์นี้เป็นตัวย่อของคำว่า flair, artistry, beauty ซึ่งเริ่มให้บริการเงียบๆเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว
ด้วยพลังของกูรูผู้บอกเทรนด์ความงามมากมาย Fab มีสถิติผู้อ่านที่เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงปีที่ผ่านมา สถิติขณะนี้คือผู้ติดตามใน Twitter มีจำนวนราว 7,000 คนและ Instagram 729 คนรวมถึง Facebook อีก 137 คน อัตรา bounce rate อยู่ที่น้อยกว่า 25% ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่มักมีสัดส่วน 40% ถึง 70%
กลุ่มผู้ชมเว็บไซต์หลั่งไหลมาจาก 150 ประเทศทั่วโลก สถิติการอ่านบทความบนเว็บไซต์เฉลี่ยอนู่ที่ 2 นาทีต่อข้อความ
ทั้งหมดนี้ ประธาน L’Oreal ยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการพัฒนาเว็บไซต์ Fab ต่อไป โดยบอกว่าความสำเร็จของโครงการ Fab อยู่ที่การสร้างคอนเทนต์คุณภาพที่ช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคและได้รับกระแสตอบรับในแง่ดี ทั้งหมดนี้ถือว่ายากมากในการสร้างฐานตลาดภายในเวลา 1 ปีหากไม่ใช้กลยุทธ์คอนเทนต์ดีและฟรีแบบ Fab
ที่มา : AdAge