คอร์น เฟอร์รี่ บริษัทผู้ให้คำปรึกษาแก่องค์กรชั้นนำระดับโลก ได้เผยผลวิจัย เกี่ยวกับภาวะขาดแคลนแรงงานผู้มีทักษะที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก ส่วนการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยนั้น อาจส่งผลให้สูญเสียรายได้ถึง 8,100 ล้านดอลล่าร์หรือ 2 แสนล้านกว่าบาท เรียกได้ว่าสูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีนเลยทีเดียว
ผลการศึกษาโดย Korn Ferry เปิดเผยว่า การขาดแคลนแรงงานผู้มีทักษะซึ่งปัจจุบันถือเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2030 หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม หากปล่อยไว้จนสายเกินไปปัญหาการขาดแคลนนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเติบโตของตลาดต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยภาวะการขาดดุลแรงงานผู้มีทักษะมากกว่า 12.3 ล้านคนภายในปี 2020 จะพุ่งสูงถึง 47.0 ล้านคนภายในปี 2030 และก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ประจำปีถึง 4.238 ล้านล้านดอลลาร์ทั่วภูมิภาค
งานศึกษาภาวะขาดแคลนแรงงานผู้มีทักษะทั่วโลกของ คอร์น เฟอร์รี่ (Korn Ferry’s Global Talent Crunch Study) ได้ประเมินช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทานของแรงงานผู้มีทักษะในเขตเศรษฐกิจหลัก 20 เขต ที่ 3 ช่วงเวลา คือปี 2020, 2025 และ 2030 ครอบคลุม 3 ภาคธุรกิจ ได้แก่ บริการทางการเงินและธุรกิจ เทคโนโลยี สื่อและโทรคมนาคม (TMT) และอุตสาหกรรมการผลิต
ปัญหาการขาดดุลแรงงานผู้มีทักษะอาจสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจและภาคธุรกิจต่าง ๆ ทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก ดังนี้
- จีนจะประสบภาวะขาดแคลนแรงงานผู้มีทักษะมากที่สุดและอาจสูญเสียรายได้ประจำปีสูงถึง 1.433 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ซึ่งคิดเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาส 1 ใน 3 ของทั้งเอเชียแปซิฟิก
- ภาคบริการทางการเงินและธุรกิจของภูมิภาคจะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ด้วยภาวะขาดดุลแรงงานผู้มีทักษะสูงถึง 3.7 ล้านคนภายในปี 2030 ส่งผลให้เกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสในแต่ละปีมากกว่า 439.62 พันล้านดอลลาร์ หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข
- ภาวะขาดดุลแรงงานผู้มีทักษะที่รุนแรงในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและภาค TMT ในจีนและญี่ปุ่น (มากถึง 3.2 ล้านคนภายในปี 2030) อาจทำให้อำนาจทางเศรษฐกิจระดับโลกของเอเชียตกอยู่ในความเสี่ยง
- เอเชียแปซิฟิกอาจเผชิญการขาดแคลนแรงงานในอนาคตสูงถึง 12.3 ล้านคนภายในปี 2020 และเพิ่มขึ้นถึง 47.0 ล้านคนในปี 2030 ซึ่งจะเกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสในแต่ละปีสูงถึง 4.238 ล้านล้านดอลลาร์
- ภาคบริการทางการเงินและธุรกิจของจีนและญี่ปุ่นจะเกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสในแต่ละปีสูงถึง 147.10 และ 113.62 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ ภายในปี 2030 ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ในอนาคตของทั้งภูมิภาค ทำให้ทั้งสองประเทศจัดเป็นอันดับ 2 และ 4 จาก 20 ประเทศที่อาจเกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสสูงที่สุดของโลก โดยอันดับหนึ่งคือสหรัฐอเมริกา
- อำนาจของภาคอุตสาหกรรมการผลิตจีนจะตกอยู่ในความเสี่ยง จากการขาดแคลนแรงงานกว่า 1.0 ล้านคนและความสูญเสียกว่า 71.43 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
- อำนาจของธุรกิจ TMT ญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากการขาดแคลนแรงงานมากกว่าครึ่งล้านคน และเกิดความสูญเสียกว่า 47.80 พันล้านดอลลาร์ของรายได้ประจำปีภายในปี 2030 ซึ่งเทียบเท่ากับ 20% ของภาค TMT ทั้งหมดของญี่ปุ่น โดยต้นทุนค่าเสียโอกาสของภาค TMT ญี่ปุ่นจะสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั่วเอเชียแปซิฟิกอาจหยุดชะงัก จากการขาดแคลนผู้มีทักษะด้าน TMT ที่สูงถึง 2.0 ล้านคน และเกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสในแต่ละปีมากกว่า 151.60 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2030
- อินเดียเป็นประเทศเดียวใน 20 ประเทศที่มีแนวโน้มจะมีแรงงานผู้มีทักษะมากเกินความต้องการ โดยคาดว่าจะมีจำนวนมากเกินถึง 245.3 ล้านคนภายในปี 2030
ทางด้านภาคธุรกิจในประเทศไทย อาจได้รับผลกระทบดังนี้
- การขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต อาจก่อให้เกิดการสูญเสียถึง 8.1 พันล้านดอลลาร์ สูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีน
- การขาดแคลนแรงงานในภาคเทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคม (TMT) ในปี 2030 อาจก่อให้เกิดการสูญเสียถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์
- การขาดแคลนแรงงานในภาคบริการทางการเงินและธุรกิจในปี 2030 อาจก่อให้เกิดการสูญเสียถึง 6.2 พันล้านดอลลาร์
- การเติบโตของกำลังการผลิตตั้งแต่ปี 2016 ถึง 2030 จะถูกกำหนดจากค่าเฉลี่ยของอัตราการเติบโตประจำปีของกำลังการผลิตในแต่ละภาคธุรกิจตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2015 (คิดเป็นหน่วยดอลลาร์ต่อคน)
วิกฤติการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดดุลแรงงานทั่วโลกภายในปี 2020 – 2030
- สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และออสเตรเลีย จะได้รับความเสียหายมากที่สุดในอนาคตอันใกล้นี้ โดยจะเกิดต้นทุนค่าเสียโอกาสรวม 1.876 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2020
- การขาดแคลนแรงงานจะรุนแรงที่สุดในภาคบริการทางการเงินละธุรกิจทั่วโลก โดยภาวะขาดดุลผู้มีทักษะอยู่ที่ 10.7 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2030
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในทุกภาคธุรกิจทั่วโลกอาจหยุดชะงักเพราะขาดผู้มีทักษะด้าน TMT ถึง 4.3 ล้านคน ภายในปี 2030
- ภาคอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก จะเกิดการขาดดุลผู้มีทักษะสูงถึง 7.9 ล้านคนภายในปี 2030 แม้เป็นภาคธุรกิจเดียวที่มีแรงงานมากเกินความต้องการในปี 2020 ก็ตาม
- อินเดียเป็นประเทศเดียวที่จะมีแรงงานมากเกินความต้องการในปี 2025 และ 2030
- การขาดแคลนผู้มีทักษะจะกระทบต่อการเติบโตทั่วโลกภายในปี 2020
- ภายในปี 2030 อาจเกิดการขาดดุลแรงงานถึง 85.2 ล้านคน
- ก่อให้เกิดการสูญเสียรายประจำปีกว่า 8.452 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 เทียบเท่ากับผลผลิตมวลรวมของเยอรมนีและญี่ปุ่น
- ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ โดยมีต้นทุนค่าเสียโอกาสรวมสูงถึง 1.876 ล้านล้านดอลลาร์ของรายได้ประจำปี ภายในปี 2020 ที่จะมาถึงนี้
- ตลาดที่พัฒนาแล้วจะได้รับความเสียหายมากที่สุดจากการขาดแคลนแรงงานในอนาคต
ผลกระทบที่อาจเกิดกับเขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก
- สหรัฐฯ จะเผชิญกับการขาดแคลนแรงงานผู้มีทักษะอย่างรุนแรง และจะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ จนทำให้สูญเสียรายได้ประจำปีกว่า 1.748 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 เทียบเท่ากับ 6% ของเศรษฐกิจของประเทศ
- เยอรมนีจะเกิดการขาดดุลแรงงานสูงสุดในแถบยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา มากถึง 4.9 ล้านคนและสูญเสียกว่า 630 พันล้านดอลลาร์ของรายได้ประจำปี ซึ่งเทียบเท่า 14% ของเศรษฐกิจประเทศ หากปัญหานี้ไมได้รับการแก้ไข
- ภาคบริการทางการเงินและธุรกิจของสหราชอาณาจักรจะขาดแคลนแรงงาน 676.2 ล้านคน และสูญเสียกว่า 90 พันล้านดอลลาร์ของรายได้ประจำปีภายในปี 2030 ซึ่งเทียบเท่า 7% ของเศรษฐกิจของภาคธุรกิจนี้
สำหรับงานศึกษาครั้งนี้ได้วิเคราะห์ข้อมูลและข่าวกรองทางธุรกิจ เพื่อศึกษาถึงขอบเขตการขาดแคลนแรงงานผู้มีทักษะใน 20 เขตเศรษฐกิจหลัก ซึ่งได้แก่ ทวีปอเมริกา – บราซิล เม็กซิโก สหรัฐฯ แถบยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา – ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และเอเชียแปซิฟิก – ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย
ตลาดของเอเชียแปซิฟิก |
ความสูญเสียที่คาดการณ์ไว้ในปี 2030 หน่วยเป็น : พันล้านดอลลาร์ |
การขาดดุลแรงงานรวมในปี 2030 หน่วยเป็น : คน |
China |
1,433.5 |
– 6,739,663 |
Japan |
1,386.8 |
– 13,756,592 |
Australia |
587.6 |
– 4,302,201 |
Indonesia |
442.6 |
– 17,943,311 |
Hong Kong |
219.8 |
– 1,884,657 |
Singapore |
106.8 |
– 1,093,506 |
Malaysia |
6.1 |
– 93,458 |
Thailand |
54.8 |
– 1,191,364 |
India |
0 |
+ 245,294,246 (เกิน) |
สามารถดูกระบวนการศึกษาทั้งหมดในรายงานการศึกษาภาวะการขาดแคลนแรงงานผู้มีทักษะทั่วโลกได้ ที่นี่