บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) ประกาศความสำเร็จประจำปี 2565 ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เครื่องซักผ้า มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 34% และผลิตภัณฑ์ทีวีระดับพรีเมียม มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 75% โดยมูลค่ารวมยอดขายของทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 7,900 ล้านบาท
อำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2565 เป็นปีที่ท้าทายอย่างมากในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งในด้านต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นและการแข่งขันทางด้านราคาจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ
แต่แอลจียังคงรักษามาตรฐานในการเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า และสมาร์ททีวีที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้แก่ผู้บริโภค
ผ่านความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตร่วมกับบริษัทพันธมิตรด้านการผลิตชิ้นส่วนระดับโลก และบริษัทขนส่งชั้นนำ จึงทำให้ไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เรายังนำเสนอทางเลือกที่มากกว่าด้านราคาให้แก่ลูกค้าระดับพรีเมียมถึงระดับกลางซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของแอลจี
โดยในปี 2566 แอลจีจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพสูงออกมาเจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ถึงระดับกลาง ผ่านการเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าของแอลจี ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำสัดส่วนรายได้มากที่สุดจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยในปี 2565 แอลจีมียอดขายเครื่องซักผ้า 418,000 เครื่อง มูลค่า 4,160 ล้านบาท
โดยผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าฝาบนครองสัดส่วนมากที่สุดอยู่ที่ 46% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า สำหรับปี 2566 แอลจีเตรียมแผนรุกตลาดเครื่องซักผ้าระดับพรีเมียมเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับบริษัท
ในเดือนพฤศจิกายน 2565 แอลจีได้เริ่มส่งผลิตภัณฑ์ LG WashTower เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในเครื่องเดียวที่มาในรูปแบบทาวเวอร์วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในไทยเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่อยู่อาศัยในพื้นที่จำกัดอย่างบ้าน อพาร์ตเมนต์ และคอนโดมิเนียม
คาดหวังกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่มีต่อสินค้า WashTower รุ่นใหม่ล่าสุดนี้อยู่ที่ 2,500 เครื่องในปี 2566 และเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องซักผ้าฝาบนในเดือนมีนาคม ปี 2566 เพิ่มเติม
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวี แอลจียังคงครองสถานะผู้นำในกลุ่มทีวีพรีเมียมเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่อง 10 ปีซ้อน ด้วยยอดขายผลิตภัณฑ์ทีวี LG OLED ซึ่งเป็นรุ่นพรีเมียมของแอลจี โดยในปี 2565 เรามียอดขายทีวีทั้งหมด 230,000 เครื่อง มูลค่ารวม 3,738 ล้านบาท
แบ่งเป็นทีวี LG OLED ทั้งหมด 10,600 เครื่อง มูลค่า 520 ล้านบาท ทั้งนี้แอลจียังเล็งเห็นศักยภาพของตลาดทีวีพรีเมียม ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสัดส่วนยอดขายทีวี OLED ของแอลจีซึ่งอยู่ที่ 75% ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งเติบโตที่ 37%
“ปี 2565 เราได้เปิดตัวไลน์อัพทีวีที่หลากหลาย เพิ่มตัวเลือกซีรีส์ใหม่ และขนาดที่หลากหลายขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มทั้งลูกค้าระดับไฮเอนด์ไปจนถึงลูกค้าใหม่ที่ต้องการเทคโนโลยีการนำเสนอภาพที่มีประสิทธิภาพสูงของทีวีแอลจี ทั้งนี้ แอลจีตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มทีวีรวมเป็น 23% ในปี 2566 โดยมุ่งผลักดันตลาดพรีเมียมให้เติบโตยิ่งขึ้น และตั้งเป้ายอดขายกลุ่มทีวี OLED ที่ 75% ในขณะที่ตั้งเป้ายอดขายทีวีหน้าจอขนาดใหญ่ 70 นิ้วขึ้นไปอยู่ที่ 30%”
ด้านการทำการตลาดในปีที่ผ่านมา แอลจีเน้นการทำโปรโมชันสำหรับสินค้ากลุ่มกลางถึงบนผ่านการขายแบบจับคู่ซื้อได้ราคาถูกกว่าเพื่อเป็นการกระตุ้นปริมาณการซื้อในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และสำหรับลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางลงไปจะเน้นที่การลดราคาและโปรโมชันการผ่อนระยะยาวร่วมกับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย โดยในปี 2566 แอลจียังเตรียมแผนกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยกิจกรรมการตลาด และโปรโมชันต่าง ๆ ในหลายช่องทาง