นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้เห็นภาพถ่ายสวยๆ หรือภาพความทรงจำดีๆ ปรากฏบนกระดาษ ไม่ว่าจะใส่กรอบ เก็บเป็นอัลบั้ม หรือติดบนตู้เย็น คุณคิดถึงภาพพิเศษเหล่านั้นบ้างหรือเปล่า?
หลายๆ ครั้งที่ความทรงจำดีๆ ถูกลืมเลือน เพราะหลายๆ คนเลือกที่จะบันทึกภาพและโพสต์ลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่ในท้ายที่สุดแล้วพวกเขากลับไม่มีเวลามาย้อนดูภาพเหล่านั้นเลย Lifeprint ปรินท์เตอร์แบบพกพาขนาดเล็กจึงเข้ามาเติมเต็มความทรงจดังกล่าว ด้วยความสามารถในการปรินท์ภาพได้ทุกที่ ผ่านแอปพลิเคชันของ Lifeprint
โดย Robert Macauley, รองประธานแห่ง LifePrint ได้กล่าวว่าสาเหตุที่พวกเขาสร้างแอปพลิเคชัน และ LifePrint ขึ้นมานั้นก็เพื่อสร้างคุณค่าให้ภาพถ่ายต่างๆ มากขึ้น การใช้งาน LifePrint นั้นเองก็คล้ายคลึงกันกับการใช้งาน Instagram คือมีความเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เพื่อนๆ หรือสมาชิกในครอบครัวสามารถส่งภาพมายังปรินท์เตอร์ของผู้ใช้งานได้โดยตรง ซึ่งผู้ใช้งาน LifePrint สามารถปรินท์ภาพดังกล่าวได้ แทนการกดไลค์บน Instagram นั่นเอง โดยผู้ที่ใช้บริการ LifePrint สามารถตั้งค่าให้ปรินท์เตอร์พิมพ์ภาพของผู้ติดต่อบางคนได้ทันทีอีกด้วย
โดยกลุ่มเป้าหมายในระยะเริ่มต้นนี้คือ ผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการแบ่งปันภาพถ่ายกับเพื่อน หรือครอบครัว แต่หลังจากนี้ พวกเขาหวังว่าจะมีผู้มีชื่อเสียงเข้ามาใช้บริการ LifePrint บ้างเช่นกัน โดยภาพที่พวกเขาแบ่งปันนั้นจะเป็นเสมือนของขวัญจากพวกเขาถึงแฟนๆ นั่นเอง
นอกจากนี้ Robert Macauley ยังได้กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ของเขาอีกว่าจำหน่ายในราคา 200 เหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 6,450 บาท) และมีขนาดเทียบเท่ากับหนังสือนิยายเล็กๆ หนึ่งเล่ม ที่มาพร้อมความสามารถในการปรินท์ภาพขนาด 3×4 นิ้วได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 60 วินาที ในการชาร์จหนึ่งครั้ง ปรินท์เตอร์ดังกล่าวจะสามารถปรินท์ภาพได้มากถึง 30 ภาพ โดยเฉลี่ยนแล้วภาพแต่ละภาพนั้นมีต้นทุนในการปรินท์ที่ 0.65 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 21 บาท) โดยปัจจุบัน LifePrint กำลังระดมทุนอยู่บน Kickstarter ที่ทาง Macauley ได้เผยว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้ LifePrint จะวางจำหน่ายจริงในเดือนมกราคม ปี 2015 สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ iOS และ ในเดือนเมษายน ปี 2015 สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ Android
ปรินท์เตอร์ดังกล่าวนี้ได้ปรับให้เข้ากับแอปพลิเคชันที่จะรองรับภาพที่มีขนาดกลางๆ ที่สมาร์ทโฟนส่วนมากถ่ายได้ในปัจจุบัน นอกจากนี้ผู้ใช้ LifePrint ยังสามารถตกแต่งภาพด้วยตัวอักษร หรือกรอบได้อีกด้วย แต่พวกเขายังไม่ได้ตัดสินใจแต่อย่างใดว่าพวกเขาจะเพิ่มการใช้งานฟิลเตอร์เหมือน Instagram หรือไม่ ซึ่ง Macauley ได้เผยว่าภาพถ่ายบนโลกดิจิทัลนี้ มีมากมายมหาศาล และหลายๆ ครั้งภาพเหล่านั้นก็ไม่ได้มีความหมายอะไรแต่อย่างใด แต่เขาเชื่อว่า เมื่อผู้ใช้ต้องเลือกที่จะปรินท์ภาพเหล่านั้น พวกเขาจะพิจารณาและให้คุณค่าแก่ภาพถ่ายชิ้นนั้นมากขึ้น
[youtube=https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=pk2kkzmwYtc]
ที่มา : WIRED