ไม่ต้องเน้นใหญ่ เพราะธุรกิจแชร์จักรยานกลุ่มเล็กก็สามารถแจ้งเกิดสู่สายตาชาวโลกได้โดดเด่นเช่นกัน เห็นได้ชัดจากหมู่บ้าน Skrova ในนอร์เวย์ที่มีบริการแบ่งปันจักรยานที่ได้ชื่อว่ามีขนาดเล็กที่สุดในโลก เพราะธุรกิจนี้มีจักรยานในระบบเพียง 12 คันสำหรับแบ่งปันกันเท่านั้น
บริการแชร์จักรยานขนาดจิ๋วนี้มีผู้ดูแลระบบคือ Urban Sharing หนึ่งในผู้มีบทบาทของบริษัทนี้คือ Liisa Andersson ซึ่งรับหน้าที่เป็นประธานฝ่ายปฏิบัติการหรือ Chief Operating Officer (COO) ที่ทำให้ Urban Sharing สร้างโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมกับพื้นที่เฉพาะทางได้
สำหรับ Skrova นั้นเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลของนอร์เวย์บนเกาะเหนือของ Arctic Circle จำนวนประชากรในพื้นที่มีน้อยกว่า 200 คน เหมาะกับระบบแบ่งปันจักรยานที่เล็กที่สุดในโลกด้วยจำนวนจักรยานในระบบ 12 จักรยาน เทียบไม่ได้กับบริการ Citi Bike ในนิวยอร์กซิตี้ที่มีจักรยานในระบบ 13,000 คัน และมีแผนจะขยายเป็น 40,000 คัน รวมถึงระบบเช่าจักรยานในหางโจว ประเทศจีน ที่มีจักรยาน 84,000 คัน
ตอบการท่องเที่ยว
Liisa Andersson เล่าว่าด้วยความที่เกาะ Skrova มีจุดเด่นเรื่องธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดนักเดินทางได้ด้วยน้ำทะเลใสและหาดทรายขาว หมู่บ้าน Skrova จึงส่งเสริมการขี่จักรยานเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวต้องใช้รถในการเดินทาง ซึ่งจะก่อมลพิษมากกว่าการขี่จักรยาน
“เนื่องจากเกาะมีขนาดกะทัดรัด เมืองจึงพยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่ผู้คนสามารถเดิน ปีนเขา หรือขี่จักรยานแทนที่จะขับรถ ไม่อย่างนั้นในช่วงฤดูท่องเที่ยว เมืองก็จะเต็มไปด้วยรถยนต์”
แม้จะมีขนาดแตกต่างกัน แต่ Liisa Andersson บอกว่าเมือง Skrova มีความคล้ายคลึงกับ Oslo ซึ่งเป็นเมืองที่มีการผลักดันให้เป็นเมืองปลอดรถยนต์ เป้าหมายของ Skrova จึงเป็นสิ่งเดียวกันกับที่ชาวเมืองกำลังมองหาในเมืองใหญ่ นั่นคือการควบคุมรถยนต์เพราะผู้คนต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น
Urban Sharing จึงเปิดตัวระบบใหม่หลังจากที่องค์กรศิลปะในท้องถิ่นนำเสนอแนวคิดในการใช้พื้นที่โฆษณาบนจักรยานเพื่อแสดงผลงานศิลปะ ตัวของ Urban Sharing เองก็มีความสนใจในการทดสอบเทคโนโลยีในพื้นที่ห่างไกลอยู่แล้ว จึงเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา
เทรนด์แรงแชร์จักรยานกลุ่มจิ๋ว
Urban Sharing ไม่ใช่เจ้าเดียวที่ริเริ่มธุรกิจแชร์จักรยานกลุ่มย่อย เพราะวันนี้มีการแจ้งเกิดสตาร์ทอัปชื่อ Koloni ที่เน้นทำธุรกิจในพื้นที่ที่มีประชากรน้อยเช่น Pocahontas และ Iowa โดยทำระบบที่สามารถจัดการจักรยานเพียง 25 คัน ให้เพียงพอสำหรับผู้ใช้ 1,700 คน
Liisa Andersson ระบุว่าเคล็ดลับที่ทำให้บริการแชร์จักรยานกลุ่มเล็กให้บริการได้ราบรื่น คือแทนที่จะใช้จุดจอดจักรยานแบบดั้งเดิม สำหรับระบบแชร์จักรยานแบบไร้จุดจอดเต็มรูปแบบ บริษัทสามารถใช้ระบบล็อคแบบไฮบริดที่ให้ผู้ใช้สามารถจอดจักรยานในจุดจอดที่เข้าถึงง่าย หรือในพื้นที่ที่มีการทำเครื่องหมายด้วยระบบแผนที่หรือ geofence ซึ่งทำให้จักรยานไม่ถูกทิ้งไว้ริมทางเดินขวางผู้คน หรือถูกหลงลืมไปจนไม่มีการใช้งาน
แง่มุมของ Liisa Andersson สะท้อนว่าธุรกิจแชร์จักรยานต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ระบบจึงสามารถนำไปใช้งานได้ในทุกที่และเห็นผลจริง ทำให้การแบ่งปันจักรยานเป็นเรื่องที่จับต้องได้มากขึ้นในเมืองเล็ก แทนที่จะเน้นปักหลักแต่เพียงในเมืองใหญ่
ที่มา: FastCompany