การเติบโตของธุรกิจ Delivery นั้น ในประเทศไทยเรียกได้ว่ามีการแข่งขันที่น่าสนใจของรายใหญ่อย่าง LINE และ GRAB ที่ดูท่าว่าจะดุเดือดสุดในภาพรวมธุรกิจนี้ เพราะรายย่อยคงไม่สามารถไปสู้ได้นอกจากการให้ความร่วมมือเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างโอกาสการเติบโต และนั่นเองที่ทำให้การจับเสือมือเปล่าของ LINE มีตัวเลขการเติบโตใน 2 ปีแตะ 500% แล้ว
นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า การเติบโตของธุรกิจ E-Commerce ทำให้เป็นโอกาสของธุรกิจขนส่งที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการใช้งานของธุรกิจ จากตัวเลขการซื้อขายแบบ Social Commerce ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 51% คิดเป็น 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าการซื้อขายผ่าน Marketplace ที่มีอยู่ 49% หรือ 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้โอกาสในการเข้าถึงธุรกิจขนาด SME ยังมีโอกาสอีกมาก ซึ่ง LINE จะเดินหน้าเพื่อเติมเต็มธุรกิจให้เป็น O2O ที่เชื่อมลูกค้ากับผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นระดับร้านอาหาร แม่ค้า คนขับแท็กซี่และผู้ประกอบการรายย่อย
“ยังมีธุรกิจอีกมากที่ไม่ได้เก่งในการเข้าสู่โลกออนไลน์ LINE จะเข้าไปเติมเต็มความต้องการให้พวกเขาไม่รู้สึกว่าการซื้อขายออนไลน์เป็นเรื่องยากหรือไกลตัว แต่จะรู้สึกสะดวกสบายขึ้นและหนุนให้ธุรกิจมีการเติบโตได้อย่างยั่งยืน”
เมื่อประเมินความนิยมในการใช้งานบริการทั้ง 5 ผ่านแพลตฟอร์มของ LINE MAN นั้น ได้แก่ 1.บริการสั่งอาหาร (Food delivery) 2. บริการแมสเซนเจอร์ (Messenger) 3. บริการซื้อของสะดวกซื้อ (Convenience Goods) 4. บริการส่งพัสดุ (Postal/Parcel) และ 5. บริการเรียกรถแท็กซี่ (Taxi)
จากผลวิเคราะห์ของธนาคารกสิกรไทยในปีพ.ศ. 2560 แสดงให้เห็นว่าการบริการส่งอาหารมีเพียง 7% ของตลาดร้านอาหารทั้งหมดที่สูงถึง 397,000 ล้านบาท ตลาดการส่งอาหารมีมาหลายปีแล้วแล้วแต่ยังมีจำนวนร้านอาหารไม่มากพอ การที่มีบริการสั่งซื้ออาหาร (Food delivery) จาก LINE MAN จะเป็นการช่วยเอื้อประโยชน์ต่อทั้งเจ้าของธุรกิจร้านอาหารและผู้บริโภค
การให้บริการของ LINEMAN
บริการสั่งอาหาร (Food delivery) ครองแชมป์อันดับ 1 ของการใช้งาน ปัจจุบันมีให้บริการสั่งซื้ออาหาร จากร้านอาหารและสตรีทฟู้ดกว่า 40,000 ร้านทั่วกรุงเทพฯ หรือมีจำนวนร้านอาหารสูงกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดประมาณ 4,000 ร้าน และเกี๊ยวซ่าเป็นเมนูที่มีผู้สั่งซื้อมากที่สุดด้วยยอดส่งมาแล้วกว่า 2 ล้านชิ้น เพิ่มรายได้ให้กับร้าน Kinza Gyoza มาแล้วกว่า 100 เท่า
บริการซื้อของสะดวกซื้อ (Convenience Goods) จัดส่งสินค้าจาก 7-Eleven ถึงหน้าบ้านตลอด 24 ชั่วโมง รายการยอดนิยมที่คนสั่งซื้อมากที่สุด คือน้ำแข็งและโซดา พิสูจน์ได้ว่า LINE MAN ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในเวลากลางคืนระหว่าง เช่น ช่วงฤดูการแข่งขันฟุตบอลและปาร์ตี้ต่างๆ โดยขณะนี้มีความร่วมมือกับทาง LALAMOVE ในการส่งสินค้า ซึ่งมีทีมส่งสินค้าของพาร์ทเนอร์ไม่น้อยกว่า 5,000 ราย
นอกจากนี้ บริษัทกำลังจะมีการแถลงข่าวความร่วมมือกับ Ninja Van ซึ่งเป็นบริการส่งของอีกครั้งในเดือนนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะช่วยให้การส่งสินค้าผ่าน LINE MAN เป็นเรื่องที่สะดวกและครอบคลุมมากขึ้น
บริการเรียกรถแท็กซี่ (Taxi) จากทั้งหมดที่มีกว่า 9 หมื่นคัน แต่อยู่ในสหกรณ์แท็กซี่กว่า 6 หมื่นคัน ซึ่งค่อยๆ ทะยอยปรับตัวเข้าสู่ระบบ แม้ว่าจะไม่สามารถบอกจำนวนรถในระบบได้แต่เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเพิ่งทำตลาดมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการแข่งขันจากบริการเรียกรถแท็กซี่ถึง 6 แอป แต่เชื่อว่าหากผู้ขับขี่คุ้นเคยกับระบบของ LINE ก็ย่อมคุ้นเคยกับการทำงานร่วมกับเราได้ไม่ยาก
ส่วนความสะดวกล่าสุดสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งของ LINEMAN คือเปิดให้มีการชำระเงินผ่าน Rabbit LINEPAY ได้แล้ว เชื่อว่าจะเพิ่มโอกาสและความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี
จากโอกาสและการเติบโตของ LINEMAN แม้จะยังอยู่ในช่วงลงทุนและยังไม่ได้เป็นหนึ่งในรายได้หลักของ LINE ประเทศไทยอย่าง LINE Sticker, LINE TV, LINE GAME แต่ก็มีโอกาสและแนวโน้มการเติบโตที่สร้างรายได้ ได้ไม่ยาก ซึ่งคุณอริยะ คาดการณ์ไว้ว่าในอีก 2-3 ปี หากยังมีการเติบโตแบบ 500% ต่อเนื่อง ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทได้ไม่ยาก