หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีเว็บไซต์และเพจต่าง ๆ มีการรีวิวบริการ Line Mobile กันไปบ้างแล้ว ล่าสุด Line Mobile ก็ได้มีการประกาศเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 19 กันยายนนี้เป็นต้นไป พร้อมเน้นจุดเด่นที่ความเข้าใจ และใช้งานได้ง่าย พร้อมสนนราคาที่ประหยัดกว่าคู่แข่งเป็นกลยุทธ์หลัก
โดย Line Mobile เกิดจากความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง LINE ประเทศไทยและ DTN เพื่อเป็นบริการโทรศัพท์มือถือใหม่ในรูปแบบดิจิทัล พร้อมบอกว่าจะเข้ามาแก้ไขความคับข้องใจด้านบริการมือถือที่มีอยู่ในปัจจุบันจากปัญหาต่าง ๆ เช่น การรอคิวนานหน้าเคาท์เตอร์เพื่อลงทะเบียนหรือชำระค่าบริการ รูปแบบแพ็กเกจที่ซับซ้อน หรือมีเงื่อนไขแอบแฝง ความเร็วอินเทอร์เน็ตลดลงขณะดูวิดีโอรายการโปรด การคิดค่าบริการเกินจริงจากบริการโรมมิ่ง ฯลฯ ให้หมดไป
คุณปวริศา ชุมวิกรานต์ ผู้บริหารฝ่ายการตลาด Line Mobile ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า ผู้บริโภคชาวไทยทุกวันนี้มีไลฟ์สไตล์ที่ตอบรับกับชีวิตยุคดิจิทัลมากขึ้น และสามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้เองผ่านแอปพลิเคชัน ดังนั้น Line Mobile จึงออกแบบบริการที่ลูกค้าสามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเอง เพื่อประหยัดเวลา รวมถึงสามารถกำหนดรูปแบบการใช้งานได้ตามความต้องการ
ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นของ Line Mobile ก็คือการที่ผู้ใช้สามารถเล่น LINE Messenger (ทั้งในรูปแบบการแชท การโทรผ่านเสียงและวิดีโอ) และรับชม LINE TV โดยไม่หักจากดาต้าแพ็กเกจ และสามารถปรับเปลี่ยนความเร็วอินเทอร์เน็ตด้วยปุ่มควบคุมความเร็วอินเทอร์เน็ต (Toggle) เพื่อสลับใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรืออินเทอร์เน็ตฟรีไม่จำกัดได้ในราคาที่เหมาะสมผ่านแอปพลิเคชัน Line Mobile ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีอิสระในการจัดการการใช้งานต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง
รวมถึงยังสามารถ
- เปลี่ยนแพ็กเกจบริการได้ทุกที่ทุกเวลา
- แนะนำเพื่อน รับส่วนลดทันที 10 บาททุกเดือนทั้งเพื่อนและผู้แนะนำตลอดไป
- บริการหลังการขายทั้งช่องทางแชทได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือโทรสอบถามเจ้าหน้าที่บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม
- สามารถเปิดใช้บริการทั้งหมดนี้ได้โดยตรงจากแอปพลิเคชัน LINE Messenger ผ่าน Official Account “Line Mobile”
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ของ Line Mobile ที่ชี้ว่า “แตกต่าง” จากคู่แข่งในวันนี้คือ การใช้งานที่เข้าใจง่าย การทำทุกอย่างได้สะดวกรวดเร็วบนมือถือของตัวเอง และโฟกัสไปยังสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการจริงๆ ซึ่งน่าจะสะท้อนภาพของวงการโทรคมนาคมที่ผู้บริโภคไทยเผชิญอยู่ได้ดีว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นไร