นอกจากจะได้ผู้บริหารคนใหม่อย่าง “คุณนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร” อดีตอุปนายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (DAAT) ผู้คร่ำหวอดในแวดวงเอเจนซีมานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการฝ่ายขายและสื่อโฆษณาแล้ว LINE ประเทศไทยยังรุกหนักด้วยการเพิ่มคุณสมบัติใหม่อย่าง “Targeting” สำหรับช่วยในการเลือกกลุ่มตลาดเป้าหมาย และ BCRM (Business Connect for CRM) ให้กับแพลตฟอร์มด้วยเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้ลึกมากยิ่งขึ้น
โดยการเพิ่มความสามารถใหม่ครั้งนี้ LINE มองว่า เป็นผลมาจากหลาย ๆ ปัจจัยประกอบกัน ทั้งความต้องการของแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีมากขึ้นในยุค Big Data ครองเมือง หรือในด้านพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่หากได้รับข้อความจากแบรนด์แต่ไม่ตรงกับความสนใจก็อาจทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกในเชิงลบกับแบรนด์ได้ การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเลือกกลุ่มเป้าหมายให้ตรงใจจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการวางกลยุทธ์ทางการตลาดในยุคต่อไป
นอกจากนั้น คุณนรสิทธิ์ยังมองว่า LINE มีทีมงานหลังบ้านของตัวเอง ทำให้มีความคล่องตัวในการพัฒนาคุณสมบัติใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างรวดเร็ว ตรงข้ามกับแพลตฟอร์มจากต่างประเทศหลายแห่งที่ไม่สามารถทำได้ดีเท่า
ด้วยเหตุนี้ LINE ประเทศไทยจึงมีการเพิ่มเติมความสามารถให้ Official Account (OA) สามารถเลือกกลุ่มตลาดเป้าหมาย หรือ “Targeting” ได้ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของแบรนด์ในการเข้าถึงลูกค้าและผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด
โดยในการทำ Targeting บน Official Account ของ LINE แบรนด์สามารถเลือกส่งข้อความได้ตาม
- เพศ
- อายุ
- ระบบปฏิบัติการที่ใช้
- ระยะเวลาที่เป็นเฟรนด์กันมา
นอกจาก Targeting แล้ว อีกหนึ่งความสามารถที่ LINE ส่งออกมาก็คือ BCRM (Business Connect for CRM) ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นนวัตกรรมด้านการจัดการข้อมูลที่น่าสนใจมากอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว
โดย BCRM ทำให้ LINE กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถจัดการ “ฐานข้อมูล” สำหรับแบรนด์ที่ง่ายยิ่งขึ้น โดย BCRM จะช่วยศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้า รวมถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ลูกค้ามีกับสินค้าหรือบริการ และ “ประสบการณ์” ที่ลูกค้าได้รับจากสินค้าหรือบริการนั้น ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ ตีความ หรือนำเสนอสิ่งที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ารายนั้น ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยคุณนรสิทธิ์ยกตัวอย่างของบริการที่จะเกิดขึ้นเช่น กรณีของดีลเลอร์ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ที่สามารถส่งข้อความแจ้งเตือนลูกค้าให้เข้ามารับบริการที่ศูนย์ฯ
โดยคุณนรสิทธิ์เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีแบรนด์ประมาณ 20 แห่งแล้วที่ใช้งาน BCRM นี้กับ LINE ยกตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลสมิติเวช, ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น
คนไทยชอบสติ๊กเกอร์ในมุมไหนบ้าง ทางนี้มีคำตอบ
เครื่องมือการตลาดที่สำคัญอี
โดย 5 ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ใช้งาน LINE ดาวน์โหลดสติกเกอร์ของแบรนด์นั้
1.สติกเกอร์ต้องต้องมีคอนเทนต์
2. เป็นสติกเกอร์เคลื่อนไหว และมีเสียง
3..ใช้ได้ทั้งชายและหญิง
4. ใช้โลโก้ของแบรนด์อย่างพอประมาณ
5. สติกเกอร์เซ็ต 16 ตัว จะได้รับความนิยมสูงสุด
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ใช้งาน LINE เกินครึ่ง รู้จักแบรนด์และจดจำแบรนด์ได้
ก้าวต่อไปของ LINE
นอกจากความสามารถใหม่ ๆ ที่น่าจับตาจาก LINE แล้ว อาจกล่าวได้ว่าในอนาคตอันใกล้ LINE กำลังจะย้ายบ้าน เพื่อรองรับทีมงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการดึงเอเจนซีเข้ามาช่วยในการคุยงานกับแบรนด์มากขึ้น ซึ่งในจุดนี้ คุณนรสิทธิ์ฝากทิ้งท้ายว่า ขอให้รอดูตัวเลขจาก DAAT รอบต่อไปได้เลยว่าจะพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีผลมาจาก LINE อย่างแน่นอน