หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเปิดให้บริการการส่งข้อความ รวมถึงสติกเกอร์และเกม ตอนนี้ LINE พร้อมเปิดให้บริการใหม่ล่าสุด ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือคราวนี้ LINE ลงมาเล่นทางด้านบริการเกี่ยวกับโทรศัพท์โดยตรง โดยจะเปิดให้บริการครั้งแรก 6 ประเทศซึ่ง 1 ในนั้นมีประเทศไทยด้วย
บริการนี้มีชื่อว่า LINE phone และ LINE call ซึ่งแต่ละประเทศยนั้นจะใช้ชื่อไม่เหมือนกัน โดยจะเป็นลักษณะที่ให้ผู้ใช้ LINE สามารถพูดคุยติดต่อกันผ่านการโทรด้วยหมายเลขโทรศัพท์ได้โดยตรง ซึ่งก็จะทำให้ผู้ที่ใช้ LINE สามารถโทรไปได้ทั้งยังคนที่ใช้ LINE และโทรหาคนที่ใช้โทรศัพท์บ้านได้เลย
สำหรับการใช้งานสามารถเข้าไปกดเบอร์ปลายทางที่เราต้องการโทรหาได้เลยผ่านเมนูของ LINE phone โดยเมื่อโทรแล้วปลายสายจะเห็นว่ามีคนโทรเข้าจาก LINE phone หรือ LINE call เลย นอกจากนั้นแล้วยังสามารถที่จะหาตำแหน่งพื้นที่บริเวณใกล้เคียงเพื่อทำการโทรหาได้ เช่น อยากจะหาร้านอาหารทานสักที่และอยากจะลองสอบถามเพื่อจองโต๊ะ ก็สามารถทำผ่าน LINE phone ได้เลย
ในส่วนของค่าบริการ การโทรหากันระหว่างผู้ใช้ LINE จะยังคงฟรีอยู่ตามปกติ ส่วน LINE phone นั้นทาง Naver ได้เปิดเผยออกมาว่าจะมีบริการที่ถูกกว่าการใช้งานโทรศัพท์ทั่วไป โดยจะเป็นลักษณะการซื้อ Call Credits เหมือนการเติมเงินแบบ Pre-paid หรือจะใช้เป็น 30-day plans ที่ใช้ได้ 30 วัน ซึ่งตัวอย่างจากหน้าเว็บไซต์แนะนำคือ 30-day plans โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้โทรหาทั้งโมบายล์และโทรศัพท์บ้าน หรือโทรเฉพาะโทรศัพท์บ้านได้ โดยมีอัตราอยู่ที่นาทีละ 6.5 เยน (2 บาท) หากโทรไปต่างประเทศก็จะตกนาทีละ 14 เยน หรือ 3 บาท
ประเทศที่จะได้ใช้งาน LINE phone ก่อนก็คือญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก, สเปน, ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย (น่าแปลกใจว่าประเทศอย่างไต้หวันกลับไม่ได้ใช้บริการนี้เป็นอันดับต้นๆ) แต่ก็ไม่รู้ว่าบริการเมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วอัตราจะออกมาอยู่ที่เท่าไหร่ หวังว่าคงไม่แพงนักนะครับ โดยทั้ง 6 ประเทศนี้จะเริ่มใช้งานได้ในช่วงเดือนมีนาคมนี้
บริการล่าสุดของ LINE นี้เปรียบได้กับผู้ให้บริการที่มีอยู่ในปัจจุบันก็คงหนีไม่พ้น Skype และ Viber นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าการรุกคืบของ LINE ครั้งนี้น่าจะให้เจ้าถิ่น VoIP อย่าง Skype ของ Microsoft ต้องหนาวๆ ร้อนๆ แน่ๆ นอกจากนี้แล้วดูท่าจะมีสิทธิมาในแนวการทำ Location Based ไปในตัวด้วย ซึ่งคนที่จะโดนผลกระทบไปก็คือ Foursquare แต่เราก็ไม่รู้แผนการของ LINE เองว่าจะมีการพัฒนาต่อในด้านนี้หรือไม่ อาจมาในลักษณะที่เป็น premium เหมือนที่ Yelp หรือ Wongnai ทำอยู่ก็อาจเป็นได้
ที่มา: LINE Press (Japanese)