ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา การใช้งานออนไลน์ของคนไทยยังคงมีการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง จากเดิม LINE ก็เรียกได้ว่ามีการใช้งานแตะ 40 ล้านคนที่เกือบเท่ากับประชากรไทยทั้งหมดแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์วิกฤตทำให้การสื่อสารผ่านระบบออนไลน์กลายเป็นช่องทางที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้น เพียง 1 ปีเพิ่มขึ้นกว่า 2 ล้านคน ทำให้ LINE ประเทศไทยยังคงเดินหน้าเรื่องวิสัยทัศน์ Life on LINE ต่อ
ทีมงาน thumbsup ได้รับฟังวิสัยทัศน์ของ ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย เกี่ยวกับการทำงานตลอดระยะเวลา 1 ปี ในเนื้อหาบอกว่า บริการอย่าง LINEMAN เติบโตขึ้นถึง 300% เพราะคนไทยไม่สามารถเดินทางออกไปนอกบ้านได้ และบริการ LINESHOP ซึ่งเป็นช่องทางอีคอมเมิร์ซที่ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ก็เพิ่มโอกาสการเติบโตได้ดีขึ้นถึง 180%
นอกจากการพัฒนาบริการเดิมให้ดีขึ้นแล้ว ทางผู้บริหารไม่ได้บอกว่าจะมีการลงทุนใหม่ๆ เรื่องใดเป็นพิเศษ จะเน้นเรื่องของการพัฒนาอีโคซิสเต็มส์เดิมให้ดีขึ้น การจ้างงานคนในประเทศ เพิ่มเสริมทัพการทำงาน รวมทั้งมุ่งหวังเข้าไปช่วยเหลือธุรกิจ SME ที่กำลังประสบปัญหาจากการขายสินค้าแบบออฟไลน์ไม่ได้
ข้อมูลตัวเลขที่น่าสนใจช่วงโควิด
- LINE Call มียอดการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้นเกิน 200% เมื่อเทียบเดือนม.ค. และ มี.ค. 2563 ทั้งการใช้งาน Voice call และ VDO call ด้วยเหตุนี้ LINE จึงพัฒนาฟีเจอร์ ฟังก์ชันเพิ่มเติมทั้งในส่วน LINE Call และ LINE on Desktop อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมคนไทยบนแพลตฟอร์ม LINE ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Watch Together ให้แชร์หน้าจอหรือดูวิดีโอ Youtube พร้อมกันใน LINE Group Call ได้ และเพิ่มจำนวนคนรองรับ LINE Call ได้มากสุดถึง 500 คน
- LINE Official Accout ธุรกิจการค้าขายสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่ติดขัด จำนวน LINE OA เพิ่มจาก 3 ล้านเป็น 4 ล้านบัญชี ณ เดือนพฤษภาคม 2563 ไม่เพียงแต่พัฒนาในส่วนโซลูชั่น เครื่องมือในการทำธุรกิจออนไลน์ แต่ LINE ยังนำเสนอแนวคิด (Growth Mindset) กลยุทธ์ (Growth Strategy) ในการทำธุรกิจออนไลน์ เพื่อขับเคลื่อนให้แบรนด์ไทยเติบโตบนโลกดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน
- ยอดการเติบโตของจำนวนร้านค้าที่ใช้ MyShop (No. of Shops Growth Rate) สูงถึง 180% (ณ เดือนเม.ย. เติบโตจากต้นปีคือเดือน ม.ค. 2563) โดยปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าบน LINE Official Accoint ที่ใช้เครื่องมือ MyShop นี้อยู่เป็นหลักหมื่น จากช่วงแรกๆ ที่มีเพียงหลักร้อย หลักพันเท่านั้น
- LINE MAN ผู้ช่วยเบอร์หนึ่งที่ทำให้ได้รับประทานของอร่อยโดยไม่ต้องออกจากบ้าน มีการใช้งานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นถึง 300 % เทียบกับการใช้งานในสถานการณ์ปกติ
นอกจากนี้ ยังมีการเข้าไปช่วยเหลือธุรกิจหลายย่อยผ่านความร่วมมือกับภาครัฐ โดยเป็นแพลตฟอร์มตัวกลางระหว่างเกษตรกรและผู้ซื้อ โครงการ “ห้าง ททท. ช้อปฟินกินเที่ยวทั่วไทย” ที่นำงานแฟร์ขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์ม LINE ให้ลูกค้าได้ช้อปกันง่ายขึ้น กระจายรายได้ไปยังโรงแรม และธุรกิจบริการทั่วประเทศได้ รวมถึงการทำนัด Test Drive ได้ถึงบ้าน รวมถึงแบรนด์เครื่องสำอางใหญ่ๆ ก็ยังหันมาทำธุรกิจอีคอมเมิรซกันมากขึ้นในช่วงที่หน้าร้านในห้างสรรพสินค้าไม่สามารถเปิดให้บริการได้
วิสัยทัศน์ที่จะเดินหน้าต่อ
อย่างไรก็ตาม LINE ยังคงเน้นวิสัยทัศน์อย่าง Life on LINE เช่นเดิม เพราะยังคงเป็นแกนหลักในการพัฒนาสินค้าและบริการให้คนไทยเข้าใช้งานและหาโอกาสจากออนไลน์มากขึ้น แต่จะมุ่งเน้นไปที่ 5 แกนหลักคือ
- ทัศนคติ (Mindset) ที่เปิดกว้าง ไม่ปิดกั้นความคิดของตัวเอง เรามีวัฒนธรรมองค์กรข้อหนึ่ง ในการมองปัญหาให้เป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้เสมอ เหมือนกับการพัฒนาบริการของ LINE ที่พัฒนามาจากปัญหาที่ผู้บริโภคประสบอยู่ ทำให้เราเรียนรู้จากปัญหาเหล่านี้ เพื่อนำเสนอทางแก้ปัญหาที่ช่วยให้ชีวิตของเขาดีขึ้น ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น
- ความรวดเร็ว (Agility) เพราะยุคนี้เป็นยุคแห่งเทคโนโลยี ซึ่งทำให้ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แบรนด์ องค์กร หรือคนในยุคนี้ จึงต้องมีการปรับตัว รับมือกับการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้เปลี่ยนไปทุกวัน การพัฒนาบริการของเราต้องสามารถปรับเปลี่ยนได้เร็ว ให้ทันเช่นกัน เพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบสนองทุกความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าทุกระดับ ปิดการขาย จนสามารถเพิ่มยอดผู้ใช้ LINE OA ถึง 4 ล้านแอคเคาท์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
- เข้าใจและเข้าถึง (Humanization) เป็นแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ ที่เราคำนึงถึงมาโดยตลอด ได้ศึกษาและทำความเข้าใจในพฤติกรรมผู้ใช้งาน สังคม และวัฒนธรรม จากนั้นนำมาปรับใช้กับในแต่ละประเทศที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสร้างสรรค์ประโยชน์ ออกแบบบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และให้บริการอย่างดีที่สุด
- ยกระดับชีวิตของทุกคน (Elevation) ทุกบริการที่สร้างสรรค์ออกมา จะต้องช่วยยกระดับชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้นรอบด้านตั้งแต่บริการพื้นฐานที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการสื่อสาร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และเป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- นวัตกรรม (Innovation) ทุกบริการและฟีเจอร์ที่เราคิดค้นและพัฒนาต่อยอดขึ้นมาด้วยเป้าหมายการเป็นแพลตฟอร์มที่ใช่สำหรับ New Normal Lifestyle ของผู้ใช้ นั้นหมายถึง ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะสามารถยกระดับและตอบโจทย์ทุกวิถีชีวิตและความต้องการทั้งของผู้ใช้งานและธุรกิจได้อย่างเป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพที่แท้จริง
ในฐานะผู้นำองค์กร เราจะต้องมี leadership mindset ที่จะพร้อมจะเรียนรู้ตลอดเวลา ผู้นำไม่ใช่คนเดียวที่จะนำพาองค์กรไปถึงปลายทาง แต่พนักงานต่างหากที่คือฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันองค์กรให้ก้าวหน้า เราต้องเป็นผู้นำที่พร้อมจะเรียนรุ้ไปพร้อมๆ กับทุกคน
เพื่อให้ LINE เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใจคนไทยมากที่สุด และพร้อมเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของคนไทย (Life Infrastructure) จริงๆ เป็นแพลตฟอร์มที่ใช่ ทั้งสำหรับลูกค้าทั่วไป และลูกค้าภาคธุรกิจ พร้อมเป็นแพลตฟอร์มทรงพลังที่จะช่วยให้คนไทยใช้ชีวิตแบบ New Normเป็นal Lifestyle ได้อย่างสะดวกสบาย และมีความสุขทุกวัน