ระหว่างการสัมภาษณ์ในงานประชุม Rise Conference ที่ฮ่องกง ซีอีโอ LINE อย่าง Takeshi Idezawa เปิดเผยถึงแผนพัฒนาบริการแชตอย่าง LINE ในอนาคตว่าจะเน้นการผนวกระบบเข้ากับเครือข่าย internet of things (IoT) ซึ่งเป็นเทรนด์การพัฒนาสิ่งของทั่วไปในชีวิตประจำวันที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เช่นตู้เย็นออนไลน์ หรือเตาอบไฮเทค
แผนการพัฒนา LINEในอนาคตนั้นเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะที่ผ่านมา เราได้เห็นการพัฒนา LINE Manga, LINE Music, LINE Delivery, LINE Taxi, LINE Mall รวมถึง LINE Pay ทั้งหมดนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของซีอีโอ Idezawa ที่ไม่มุ่งสร้าง Line ในรูปประตูสู่การสื่อสารเท่านั้น แต่ลงมือสร้างเส้นทางสู่ระบบเศรษฐกิจ Line ecosystem อย่างเต็มรูปแบบ
ซีอีโอ LINE ระบุว่าเพื่อดึงดูดผู้ใช้รายใหม่ให้ LINE บริษัทกำลังมองหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ Line สามารถเกาะเทรนด์ internet of things ที่กำลังร้อนแรงในขณะนี้และอนาคตได้ จุดนี้ Idezawa อธิบายว่าในระบบดังกล่าว ฮาร์ดแวร์จำเป็นต้องถูกควบคุมโดยบางอย่าง ซึ่งบางอย่างนั้นเองอาจจะเป็นบริการกลุ่มส่งข้อความหรือ messenger
Idezawa ยกตัวอย่างว่า หากเราเชื่อมต่อ LINE เข้ากับตู้เย็น ตู้เย็นอัจฉริยะจะสามารถบอกเราเป็นข้อความผ่าน LINE ได้ว่ามีเบียร์กี่กระป๋องแช่อยู่ในตู้ LINE แนวคิดนี้เองที่ทำให้สามารถสรุปได้ว่าอนาคตของ Line จะถูกผูกกับระบบ IoT แน่นอนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
เหนืออื่นใด ซีอีโอ LINE ยืนยันว่าบริษัทเข้าใจดีถึงแก่นหลักของธุรกิจ LINE เรื่องการสื่อสาร ความเข้าใจนี้เองที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จงดงามในบริการที่มีเจ้าตลาดใหญ่รออยู่แล้ว ที่เห็นชัดเจนคือบริการเพลงที่ Line ลุยเปิดให้บริการเหมือนเจ้าพ่ออย่าง Apple และบริษัทอื่นๆ จุดนี้ซีอีโอ Line ระบุว่าบริการ Line Music ประสบความสำเร็จสูงเพราะผู้ใช้สามารถส่งเพลงเพื่อบอกความรู้สึกได้แทนคำพูด
ปัจจุบัน LINE มีผู้ใช้งานประจำต่อเดือนมากกว่า 211 ล้านคน พื้นที่ที่มีการใช้งาน LINE มากที่สุดในโลกคือญี่ปุ่น ไต้หวัน และประเทศไทย ขณะนี้ธุรกิจที่กำลังเติบโตโดดเด่นที่สุดของ LINE คือการจำหน่ายสติกเกอร์ที่ผู้ใช้สามารถออกแบบด้วยตัวเอง โดยสถิติยอดจำหน่ายล่าสุดในบริการ LINE Creators Market นั้นทะลุหลัก 8.94 พันล้านเยนแล้ว ราว 2.3 พันล้านบาท
ที่มา : Tech in Asia